Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2563

Marketing5.0 > Quantum Computing


การตลาด5.0  > ควอนตัมคอมพิวเตอร์ ทำตลาดเปลี่ยนโลกควอนตัมคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนโลกการแข่งขัน 


Quantum Marketing หรือ Marketing 5.0 จะมาด้วยเทคโนโลยี่ Quantum computer + AI ลองนึกว่าหากมี คอมพิวเตอร์ธรรมดาๆที่มี 4 bits แต่ละ bit มีสภาวะ เป็นได้ไม่ 0 ก็ 1 เท่านั้น หมายความว่า ความเป็นไปได้ที่ มันจะ สร้างชุดตัวเลขได้ทั้งหมด 16 ชุด หรือเท่ากับ 2ยกกำลัง 4  ดูภาพจะได้ไ่ม่งง นั้นหมายความว่า หากคอมฯจะ เดาข้อมูล password ที่อยู่ในชุดตัวเลขนี้ ต้องใช้การคาดเดาถึง 16 ครั้ง สุ่มตัวเลข แล้ว Hack เช่น 0000 ไม่ถูก มันจะเดาต่อว่า0001 ซึ่งก็อาจไม่ถูกอีก มันก็เดาไปเรื่อยๆ จนพบ เลขชุด 4 ตัวที่ใช่ สมมุติว่า เป็น 1110 นั้นหมายถึงคอมพิวเตอร์ธรรมดาต้องเดามากถึง 16 ครั้ง  การเดาข้อมูล passwordแต่ละครั้ง มีโอกาสถูก 1 ใน 16 



 แต่ถ้าเป็น Quantum Computer ที่มี 4 Qubitsหรือ Quantum bit ที่มีสภาวะ 0,1 ได้ในเวลาเดียวในแต่ละ Qubit นั้นหมายถึงมันจะอ่านตัวเลขทั้ง 16ตัวได้พร้อมๆกันในเวลาเดียวกันที่เรียก Superposition มันจึงเดาข้อมูล password ได้ทันทีไม่ต้องใช้เวลาเดาถึง 16 ครั้ง แบบคอมฯธรรมดา มันจึงทำงานเร็วกว่ามาก ลองนึกถึงเวลาเราเดินทางด้วยกูเกิ้ล มันจะแนะนำเส้นทางสมมุติว่ามันสร้างเส้นทางที่เป็นไปได้ 16เส้นทาง ถ้าเป็น Quantum computer มันจะคำนวณทั้ง 16 เส้นทางพร้อมกัน และบอกเราว่าเส้นทางไหนดีที่สุด แต่ถ้าใช้คอมธรรมดามันอาจคำนวณที่ละเส้นทางแล้วค่อยเปรียบเทียบที่ละคู่แล้วค่อยบอกเราว่าเส้นทางไหนดีสุด สั้นสุด รถติดน้อยสุด ควอนตัมคอมฯจึงมาเปิดหน้าไพ่ ทั้งหมดพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน



ปัจจุบัน กูเกิ้ลเคลมว่า ตนเอง ถึงจุf Quantum Supermacy แล้วโดยสามารถผลิต 54 Qubits ที่มีความเร็วมากกว่า ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ต้องใช้เวลาคำนวณ10,000 ปี เทียบกับ Sycamore Quantum Processor ที่ใช้เวลาเพียง 200 วินาทีในการคำนวณ แต่ทาง IBM ออกมาโต้ตอบว่าไอ้งานที่ว่านี้จริงๆแล้ว ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ใช้เวลาแค่ 2.5 วัน ไม่ใช่ หมื่นปี 



AI Chip ชิปที่ใส่คำสั่งอัลกอริทึม ช่วยในการเรียนรู้ของเครื่อง Machine Learning

ก่อนมี AI Chip ต้องบอกก่อนว่า เราสามารถเขียนโปรแกรมใส่ลงบนชิฟคอมพิวเตอร์ได้อยู่แล้วที่เรียก System On Chip SoC  แต่ใน ส่วน AI Chip ที่มือถือหลายค่ายได้นำไปใส่นั้น  และ ชิป Ascend ของ Huawei   Intelchip Gen10  ก็เคลมในเรื่องการใส่ AI chipเข้าไป เพื่อช่วยให้เครื่องเรียนรู้ Machine Learning   


 นั่นคือ Advance Algorithm  ที่ใส่เข้าไป ทั้งในรูปแบบ CNN ซึ่งเน้นไปที่ การจดจำภาพ Visual      กับ RNNนั้น จะเน้นหนักไปที่ VoiceเสียงและTextตัวอักษร  เราจะกล่าวถึงต่อไป  ชิฟนี้มีส่วนช่วยเรื่องประมวลผลและการเรียนรู้ Machine Learning ซึ่งมันจะเก็บข้อมูลประจำวันเข้ามาประมวลผล ตัวอย่างเช่นภาพหน้าเราตอนเปิดมือถือ ปลดล็อคหน้าจอ มันไม่ได้จำหน้าเราเฉพาะแค่ครั้งแรกที่บันทึก มันจะเก็บข้อมูลเราทุกครั้งทุกๆวัน เรียนรู้หน้าเราทุกวันว่าหน้าเราเปลี่ยนไปได้หลายแบบ เช่น วันโน้นผมยาว วันนี้ผมสั้น วันนี้ทาคิว เขียนปาก ทาอายด์ชาโดว์ แต่งหน้าเข้ม มีรูปหน้าเปลี่ยนไป เพราะไปทำ Hifu Ulthera มาคางแหลมขึ้น หน้าเรียวขึ้น แต่ก็ยังเป็น นส.สวย อยู่ดี มันมีการเรียนรู้ ลองนึกดูว่าหาก IoT ที่ทุกอุปกรณ์ที่เราใช้ในชีิวิตประจำวัน มีข้อมูลวิ่งทุกวัน เรียนรู้ทุกวัน มันเรียนรู้เรา พฤติกรรม ความชอบ เรา มันเสนอแนะเรา แทน รีวิวจาก โซเชียลมีเดีย เราเชื่อมันมากกว่ารีวิว ออนไลน์ เพราะมันคือภาพสะท้อนการเก็บตัวตนเราในทุกๆวัน มันรู้จักเราเข้าใจเรา เป็นเพื่อนที่แสนดีกับเรา และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา Share of life และนี่คือการตลาด 5.0 ที่กำลังจะอุบัติใหม่ขึ้น  ที่ต้องอาศัยความรู้    Big Data Analytics     Advanced Statistics  การใช้โปรแกรม Phython   Tensor Flow2.0     เข้าใจการเรียนรู้ด้วยภาพ Visual Recognition จาก Convolution Neuron Network  CNN    และการเข้าใจภาษาธรรมชาติที่เป็นแบบ Sequential   เรียก   Natural Language Processing NLP  ที่อาศัยหลักการเอาข้อมูลก่อนหน้ามาทำนายว่าเราจะพูดหรือค้นหาอะไรต่อไป เหมือนตอนเราค้น Searchในกูเกิ้ล มันจะเสนอแนะ คำค้นถัดไปให้เรา เช่น   ร้านอาหาร มันจะเติมต่อท้ายให้เรา อร่อยใกล้ฉัน  หรือ  ญี่ปุ่น   เป็นต้น ข้อมูลพยากรณ์ต่อไปจะขึ้นกับคำก่อนหน้าที่เราคีย์ หรือพูดถาม เช่น เราแค่พูด 1 ดอลล่าร์  มันก็จะต่อให้เรา เท่ากับ 30.5 บาท เอง อัตโนมัติ  เทคนิคนี้คือ    Recurrent Neural Network RNN ทั้งนี้มันจะเสนอแนะอะไรก็ขึ้นกับประวัติการค้นหาของเราในอดีตนั้นเอง ว่าอันไหนตรงใจเราไม่ตรงใจเรา     Algorithm ทั้งคู่เป็น DL Deep Learning  ที่คอมพิวเตอร์เลียนแบบ ระบบสมองของคน ในการทำงาน เรียนรู้ จดจำ  โต้ตอบกับเรา ซึ่งเราต้องสอนมัน ด้วยข้อมูลพฤติกรรมของเราเอง ว่าอะไรตรงประเด็น ไม่ตรงประเด็น จนมันรู้ใจเรา เป็นเพื่อนที่แสนดีกับเรา

Marketing5.0 > Quantum Marketing

 การตลาด5.0 > Quantum Marketing



เริ่มสู่ปี 2020 จากการสดับฟัง ดูข่าวสารการเคลื่อนไหว Disruption ทางธุรกิจ การตลาด และเทคโนโลยี่ สารสนเทศ ผมเริ่มมันใจแล้วว่า การตลาดยุค 5.0กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเราแล้ว ยิ่งมี ระบบ5 G 6 G ที่ยิ่งสัญญานผ่านดาวเทียมเป็นหมื่นๆดวง การสื่อสารด้วยเลเซอร์ ยิ่งจะมาเอื่้อม การสื่อสารข้อมูล ระหว่างเครื่องอุปกรณ์ใน ระบบ IoT Blockchain AI Chip และ Quantum Computer จะเป็นปัจจัยผลักดัน ให้เกิด Bot ระบบโต้ตอบอัตโนมัติ หรือ เสนอแนะเรา ตามพฤติกรรม ความชอบ อุปนิสัยการทำซ้ำของเรา คนจะเชื่อถือเครื่อง Digital Prsonal Assitance มากกว่า เชื่อถือคน หรือรีวิวเพื่อนใน โซเชียลมีเดีย เพื่อนที่แสนดี จะกลายเป็น Bot แทน รีวิวจากคนสังคมออนไลน์


จากการตลาดยุค 1.0 เช้าสู่ยุค 5.0 

เมื่อการตลาดเข้าสู่ยุค 5.0 มันคือยุคที่ โซเชียลมีเดีย หมดความหมาย มันคือยุค M2M Machine-to- Machine ที่เครื่องสื่อสารกับเครื่องกันเองได้ และ ปรับทุกอย่างเป็นขบวนการบริการที่ต่อเนื่องกันเครื่องต่อเครื่อง ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของคน จากการวิเคราะห์พฤติกรรมเรา เช่นชอบปิดแอร์ตอนใกล้รุ่ง ตื่นมาชอบฟังเพลงแบบนี้ ทานข้าวเช้าเวลานี้ มันจะ จะเสนอแนะเพลง ข่าวสาร อาหารเช้า ก่อนสตาร์ทรถมันจะแนะนำเส้นทางเดินทางไปทำงาน และ เครื่องจะทำร่วมไปกับเรา หรือ ทำให้เราแบบอัตโนมัติ การเรียนรู้พฤติกรรมเราโดยใช้ ข้อมูล Bigdata จากเรา และ Machine Learning รวมถึง Deep learning ที่จะรู้ Pattern Recognition การใช้ชีวิตของเราทุกๆวัน มาเสนอแนะเรา และ ทำไปกับเรา แบรนด์เป็นเรื่องที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น Google FB Amazon Microsoft Apple ต่างก็พยายามสร้างแบรนด์แบบใหม่ เป็นShare of Life แทน Share of wallet มันไม่ใช่แค่ ธีม Brand Image หรือ อีเวนท์ที่เราทำสื่อสารไปยังลูกค้า แต่มันคือแบรนด์ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็นอยู่ของลูกค้า หลับกินกับลูกค้า

ถ้าคุณพูดถึง Market share แสดงว่าคุณมาจากยุค1

ถ้าคุณพูดถึง Share of mind แสดงว่าคุณมาจากยุค2.0

ถ้าคุณพูดถึง Share of Wallet แสดงว่าคุณมาจากยุค3.0

ถ้าคุณพูดถึง Share of Community แสดงว่าคุณมาจากยุค 4.0

ถ้าคุณพูดถึง Share of Life คุณเริ่มเข้าใจ การตลาดยุค5.0

Google SycamoreQuantum Computing 54 Qubits


Quantum Marketing หรือ Entangled Marketing

Quantum Marketing จากยุค การตลาด4.0 ที่ Brand สนใจ ต้องสร้างเป้าหมาย Engagement ของลูกค้าไม่ว่าเป็น Look Like Love ใน Content ต่างๆที่แบรนด์ โพสต์ เขียน สื่อสารไปยังลูกค้า แต่การตลาด5.0 สิ่งที่แบรนด์สนใจคือ Entanglement ที่ยืม มาใช้จาก Quantum คือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ และลูกค้าจะเป็นแบบ Entanglement ที่ว่าด้วยอนุภาคสองตัวมีความผูกพันธ์กัน เมื่อเราทำให้อนุภาคหนึ่งสะเทือนสั่นไหวจะ พบว่าอนุภาคทั้งสองจะสะเทือนไปพร้อมๆกัน ตามแรงกระเพื่อมที่เราใส่เข้าไป แม้ว่าอนุภาคทั้งสองจะอยู่ห่างไกลกัน เหมือนอนุภาคทั้งสองถูกผูกติดกัน และนี่คือคำอธิบาย แบรนด์ ผูกกับลูกค้าในการตลาดยุค5.0 เราต่างมุ่งสู่ Entanglement เข้าไปอยู่ในชีวิตลูกค้า มี Share of life หรือแชร์ชั่วโมงที่แบรนด์ได้ใช้ชีวิตร่วมกับลูกค้า อยู่ในไลฟสไตล์ การใช้ชีวิตประจำวันของลูกค้า ในยุค IoT Internet of things ที่เครื่องมืออุปกรณ์ทุกตัวสามารถสื่อสารกันเองได้ และ เก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้ของลูกค้าในชีวิตประจำ Machineเป็นส่วนหนึ่งของชีิวิตลูกค้า เครื่องเหล่านี้จะทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดี วิเคราะห์เรา ดูความต้องการเรา เรียนรู้เราแล้วนำมาเสนอแนะเรา หรือทำให้เราอัตโนมัติ ตรงตามความต้องการเฉพาะตัวของเรา และที่สำคัญมันจะเชื่อมต่อกันแบบไร้รอยตะเข็บ เพื่อให้บริการเรา ยกตัวอย่างเช่น หากเราบอกเครื่องว่า เราต้องการไปสมุยโดยมี เวลาแค่สามวัน ต้องการใช้ชีวิตบนเกาะ เช่นชีช้าง ดำน้ำ ขี่จักรยานรอบเกาะ ทานอาหารเช้าที่ริมหาดเฉวง ทานข้าวเที่ยงซีฟู้ดทีเชิงมล และ ไปปาร์ตี้ดินเนอร์ที่ เกาะพงัน กลับมาประชุมกรุงเทพ ตอนบ่าย 3วันจันทร์ให้ทัน สายการบิน รถแวน รถตู้ เรือเฟอร์รี่ และ บริการจองร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก บัตรเข้างาน ทุกอย่างจัดสรรให้เราแบบไร้รอยตะเข็บ ด้วยเทคโนโลยี่ ที่ทำให้เราไม่เสียเวลารอ ไม่ตกเครื่อง ไม่ตกเเรือ ไม่ตกรถ ด้วยเทคโนโลยี่ AI และขัอมูลที่มันมีในระบบ หน้าที่ของแบรนด์แต่ละบริการจะต้องมาเชื่อมต่อกัน ทั้งอุปกรณ์ บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ดีที่สุด เมื่อมีแรงกระเพื่อมจากลูกค้า แบรนด์ทุกแบรนด์ในระบบจะกระเพื่อมตามกัน Entanglement พร้อมๆกัน เพื่อตอบสนองลูกค้า ที่อาจเรียกมันใหม่ว่า Quantum Marketing หากนำ Quantum Computer มาเใช้ในการหา Best Solution ให้ลูกค้าแต่ละคนก็ลองคิดดูว่า โลกใบนี้จะ Disruption ขนาดไหน

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Marketing 5.0 การตลาดแห่งยุค Disruption

Marketing guru > Marketing 5.0  in the  Disruption Age

การตลาดในยุค 5.0  เป็นยุคที่ ใช้ Machine Learning เข้ามาเรียนรู้การทำตลาด แทนคน โดยมี Algorithm ที่ว่า คือ  

Content Marketing 

การทำตลาดในกลุ่มเป้าหมาย ต่างๆกัน  ภายใต้ งบประมาณที่กำหนด และ ต้นทุนต่อผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น ต้นทุนต่อยอดขาย Convesion CPA   Return on Advertising Spending    ROAS    เครื่องจะทำการยิงโฆษณาหมาหมู่ หรือโฆษณากลุ่ม ซึ่งมีทั้งภาพ วิดีโอ หรือ Headline ที่แตกต่างกัน ไปยังกลุ่มเป้าหมายคนดูที่หลากหลายแล้ววัดผล ว่า  อันไหนเวิร์ค โดยเครื่องจักรโฆษณามันจะเรียนรู้ ต่อยอดไปเรื่อยๆจนมันเก่ง  และรู้ว่าโฆษณาตัวไหนเวิร์คกับลูกค้ากลุ่มไหน ที่ยิงแล้วเป็นโดน  ในขณะที่ต้นทุนต่ำสุด ของผมตอนนี้ก็มีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งประมาณ 5 เท่า ทำให้มีความได้เปรียบในการทำตลาดมหาศาล คนอ่อนแอก็แพ้ไป ไม่มีอะไรมาก 

 Internet of Things

 ที่มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในบ้าน ในโรงงงาน ออฟฟิตสำนักงาน กับ ศูนย์กลางการสื่อสารในบ้าน ออฟฟิต  ผ่าน Digital Personal Assitance อย่าง Google Home   Alexa    ทำให้เครื่องแต่ละตัวสามารถสื่อสารกันเองได้แบบ M2M  Machine to Machine  ซึ่งจะมีข้อมูลที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการมใช้ ของเรา ของคนรอบข้างเรา  ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ใน Big Data    ดั้งนั้นข้อมูลบางอย่างจะเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ และ ทำ Algorithm  แนะนำ เรา เช่นถึงเวลาเติมเต็ม ของใช้ ในบ้าน ในตู้เย็น เปลี่ยนอุปกรณ์ไส้ในของมัน   หรือ การอัพเดท Firmware อัตโนมัติ  ลองนึกว่าเครื่องเหล่านี้ใน โรงงานแบบ Industry4.0 มันจะเชื่อมต่อกันเป็นProcess มีข้อมูลวิ่งเข้าหากัน แบบไร้รอยตะเข็บ และรู้ว่าขบวนการผลิตมีปัญหาไหมหรือกำลังเกิดปัญหาไหม ต้องพักเครื่องไหม เพื่อเปลี่ยนอะไหล่ การควบคุมกลไกการทำงานแต่ละเครื่องในไลน์จะสอดประสานกันคุยกันเอง .  ส่วนในบ้านหรือที่สำนักงานการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เราทำให้ เครื่องเข้าใจเรา ผ่าน Machine Learning  มันจะวิเคราะห์ความต้องการผู้ใช้ และเสนอแนะ เรา  ในยุค หน้าคนจะไม่ได้เชื่อ Social Commnunity อีกแล้ว แต่จะเชื่้อส่ิงที่เครื่องมันบอกหรือแนะนำ Machine Suggestion  ที่มันเรียนรู้พฤติกรรมและความต้องการของเรา ลองสังเกต เวลาเราพิมพ์คำค้นหาในกูเกิ้ลมันจะเสนอหน้าคำค้นให้เรา  เราดูหนังในยูทูปมันกะจะเสนอหน้าแนะนำหนังหรือเพลงที่เราน่าจะชอบ   เราซื้อของในลาซาด้ามันก็จะแนะนำสินค้าที่เราน่าจะสนใจซื้อ    ปัญหาคือคุณเข้าใจเรื่องนี้แค่ไหนนำไปสู่เรื่องที่ 3

Big Data Analytics 

ข้อมูลวิ่งในระบบ IoT นั้น มีมากมาย มหาศาล  เครื่องมันจะเรียนรู้หาความสัมพันธ์ข้อมูล เชิงพฤติกรรม และทำนายพฤติกรรมเรา  ความต้องการของเรา และปรับ การนำเสนอ ข้อแนะนำ  รวมถึงปรับแต่งเครื่อง ให้เหมาะกับเราเช่น เราชอบลุกมาหรี่แอร์ตอนตี สี่ หลังจากเครื่องปรับอากาศมันจับพฤติกรรมเราได้ว่าเราหนาวไปตอนตีสี่  มันก็จะมีระบบปรับปรุงตัวมัน ให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น ตอนใกล้รุ่ง  หรือ เราใช้ข้อมูลที่เป็น เสียง ภาพ หรือ วิดีโอมากกว่ากัน มันก็จะปรับ แพ็คเกจนำเสนอเราให้ตรงกับการใช้งานของเรา ในราคาที่ถูกที่สุด ที่เรียก Optimization   สิ่งที่สำคัญคือเครื่องมันจะเรียนรู้ Pattern Recognition ของ user การวิเคราะห์ข้อมูล จะมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ ​AI เข้ามาใช้  ทั้งในระดับ Machine Learningที่เราต้องป้อนสมการหรือ Algorithm ให้มัน    กับ  Deep Learning ที่เครื่องมันเรียนรู้ด้วยตัวมันเอง อาศัย Algorithm ที่เรียนแบบ ระบบประสาทสมอง Neuron Network   ที่มาใช้ในการ แยกแยะ จำแนก ภาพ เสียง และ ภาษามนุษย์  NLP  Natural Langauage Programing  อย่างพวก AI Chatbot ที่มันจะรู้ความต้องการของผู้สอบถาม จากการเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ จนมันรู้ว่าตอบแบบดี ok  ลูกค้ามีอารมณ์ดี มันจะจำหน้าคนได้ว่าถ้ายิ้ม และพูดแบบนี้แสดงว่าลูกค้าพอใจแล้ว  ทั้ง ระบบภาพและเสียง Visual & Voice Recognition   หุ่นยนต์ดิจิตอลพวกนี้แหละ จะมาให้บริการเรา ในธนาคาร Call Center และทำงานซ้ำซากแทนคน ในไลน์การผลิต  ข้อมูลที่ไหลลื่นเหล่านี้ เป็น Realtime เป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมเช่น อุณหภูมิ ความชื้น ในโรงเพาะเลี้ยง และจาก Sensor ก็จะมีการปรับ อุณหภูมิ การพ่นน้ำ อัตโนมัติ   และก็จะมีข้อมูลที่เป็นความลับเฉพาะ หรือข้อมูลการโอนผ่านบัญชีของสภาวะเงินดิจิตอล ซึ่งต้องไหลผ่าน Blockchain

Blockchain    

ข้อมูลที่สำคัญและเป็นความลับจะไหลผ่านระบบ บล้อคเชน ซึ่งมีการเข้ารหัสถอดรหัส เป็นห่วงโซ่และแชร์ข้อมูล เข้ารหัส  ผ่านระบบ Cryptography ไปสู่Peer-to-Peer เพื่อให้ยากแก่การแก้ไข  ส่วน ข้อมูลที่ไม่ใช่ความลับและเป็นเรียลไทม์ จะวิ่งOff Chain เช่นผ่าน Smart Oracle  แต่ข้อมูลที่สำคัญและเป็นความลับจะวิ่งผ่าน บล๊อคเชน โปรโตคอล Etherium  การใช้งาน ข้อมูลพวกนี้ รวมถึง Digital Currency  หรือ . Crypto Currency   ในอนาคต สินค้าและบริการทุกชนิดจะถูกแปลงเป็นหน่วย Cryptocurrency  ผ่านขบวนการ Tokenization รวมถึงเครดิตต่างๆ  คาร์บอนเครดิต   Personal Reputation จะแปลงเป็นหน่วย คริบโตหมด และสามารถโอนถ่ายซื้อขายกันได้ ในตลาด ผ่านระบบ Web3.0  และแอปพลิเคชั่น แบบ DAPPS  ซึ่งวิ่งบนมือถือ และคอมพิวเตอร์ของเราปกติโดนที่เราไม่รู้เบื้องหลังการทำงานของมันเลย   รถขับเคลื่อนเอง ของคนที่มี หน่วย Tokenization แล้วมีมูลค่าหัวสูง  จะไม่ต้องรอรถติด  รถที่มูลค่าต่ำกว่าต้องจอดรอหรือหลีกทางให้  เช่นเดียวกับการเข้าคิว ใครมีมูลค่าสูงก็เข้า Fasttrack Service เหมือนบัตร WISDOM  อะไรประมาณนั้น  

เป็นงัยบ้างครับพึ่งเป็นปฐมบทของการตลาด 5.0 ที่จะมาเปลี่ยนโลก และธุรกิจเรา หากใครปรับไม่ทัน ก็คงไม่มีเวทีให้ยืน ในอนาคต  เป็นเรื่องที่มาเร็วมาแรง เกินตั้งตัวได้ทันครับ ผมจะค่อยๆชำแหละให้รู้กันเป็นตอนๆครับ 

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Marketing 4.0 > Frontline 4.0 ปรับทัพหน้าตอนที่ 3

Frontline 4.0 ตอนที่ 3 แพลทฟอร์มแห่งการบริการ 4.0 ทำอย่างไร




อาจารย์นิทัศน์ คณะวรรณ



Service Platform 4.0 กระบวนการบริการใหม่ 4.0 กลยุทธ์การตลาด ที่ช้าไม่ได้



ถ้าท่านสังเกตุการบริการยุคนี้จะเห็นว่าผู้ประกอบการมือถือ ธนาคาร รถยนต์ ร้านสะดวกซื้อ แม้แต่ร้านซักรีด ต่างก็นำเอากระบวนการ เครื่องมือ คำพูดจาใหม่ๆ สร้างความประทับใจให้เรายิ้มแย้มได้เหมือนกันแม้จะรู้ว่าพวกเขาทำตามหน้าที่ ที่โดนกำกับมาก็ตาม คือดีกว่าไม่ทำว่างั้นเถอะ ทั้งหมดนี้คือ Service platform ใหม่ ที่เมื่อพวกเขารู้จักบริการเราผ่าน FB Messenger, line, chatbot ก็ต้องเรียกว่า Online service platform 4.0 ครับ

ข้อดีของมันคือสามารถ ติดตาม ติดต่อ ให้ข้อมูลเราได้แบบหนีไปไหนลำบาก ยกเว้นบล็อคหรือเลิกคบบริการนั้นๆไป เพราะบางครั้งก็ออกจะน่ารำคาญเหมือนกัน เนื่องจากมันทำหน้าที่ Monitoring, tracking, informing, following ดีซะเหลือเกิน นั่นเอง

ที่ตะกี้ผมว่าการบริการ การขายสมัยนี้เขาประดังเข้าหาเราแบบหลากช่องทาง แบบมัลติ ออมนิ ชาแนล ก็เพื่อพอวัดประเมินความพึงพอใจแล้วออกมาดีขึ้น ดีเหนือคู่แข่ง พวกเขาก็จะแฮปปี้ เพราะคือผลงานที่ได้เพียรสร้างขึ้น วัดผลได้ทันที แน่นอน เช่นให้เราใส่เรตติ้ง ให้กรอกแบบประเมินออนไลน์ เช่นเวลาเราไปเที่ยว เช็คอิน ทำ QR Code ตอนกินอาหาร นั่นก็หมายความว่า CSI ยุคนี้ก็ได้เป็นแบบ Realtime ไปแล้ว

งานของพวกเขาไม่ได้หยุดแค่นี้ เพราะต้องมีการแจกจ่ายหน้าที่ รับผิดชอบ กระจายกันไป ว่าใครต้องทำหน้าที่อะไร เมื่อใด กับใคร ซึ่งทีมเวิร์คจะสำคัญที่สุด เพื่อให้ก้าวไปในจังหวะ ลีลา เดียวกัน ใครหลุดตรงในระบบจะฟ้องขึ้นมาทันที เพราะการรายงานหรือ Reporting มันถูกติดตามดูอย่างออนไลน์ รีลไทม์ เช่นกัน

ผลของการทำ Service platform 4.0 นี้จะส่งกลับมาถึงฝ่ายขายด้วย เมื่อลูกค้าชอบ พอใจ ก็จะบอกต่อ แนะนำ เกิดการขายต่อเนื่อง ขายได้ง่ายขึ้น ลด Cost of Acquisitions ลงได้มาก



นี่คือ กลยุทธ์การตลาด ที่ใช้ต่อสู้กัน ต่างใช้ แผนการตลาด ที่ล้ำลึก ในยุคที่ กลยุทธ์การบริหาร แผนการบริหาร ก้าวสู่ ดิจิตอล 4.0 ใครเก่งกว่ากัน เร็วกว่ากันย่อมได้รับชัยชนะครับ

Marketing 4.0 > Frontline 4.0

Frontline 4.0 ตอนที่ 2 แพลทฟอร์มแห่งการขาย 4.0 ทำอย่างไร 





อาจารย์นิทัศน์ คณะวรรณ



ในโลกดิจิตอล 4.0 นั้น พอเราพูดเรื่อง การตลาดดิจิตอล 4.0 โดยนำเทคโนโลยี เครื่องมือใหม่ๆมาช่วยรับมือลูกค้าสมัยใหม่ การปรับPlatform การขาย การบริการต่างๆให้มีขั้นตอนสอดคล้องพฤติกรรมลูกค้ายุคใหม่ที่เรียนรู้เร็ว เปรียบเทียบก่อนซื้อสินค้าหรือใช้บริการ เราจึงต้องปรับปรุง KPI การขายสู่ยุค4.0 วัดประสิทธิภาพทัพหน้าFrontline วัดความคุ้มค่าการลงทุน ROI วัดงบการตลาดสอดคล้องยอดขายไหม ควรปรับเพิ่ม/ลดให้เหมาะสมหรือไม่ ตัวอย่าง การตั้งKPIวัดระดับการใช้งบตลาดออนไลน์สำหรับสร้างยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม(ความงาม สุขภาพ )ทางออนไลน์ ควรใช้งบไม่เกิน 35% เพราะปกติเราถูกหักส่วนลด30-40% อยู่แล้วเมื่อขายผ่านคนกลาง(ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ตัวแทน )ยังไม่รวมที่ต้องรอเก็บเงินอีก 45-75วัน เป็นต้น

การปรับKPI ยุค 4.0 ต้องสามารถวัดผลแบบ Realtime ด้วย กล่าวคือผู้บริหารต้องตรวจสอบวัดผลได้ ทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานที่ขาย ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัดความคุ้มค่าการลงทุนและประสิทธิภาพการทำงานของทัพหน้าFrontline

ผลดีที่เห็นๆคือเราจะสามารถตอบสนอง ชี้แจง แก้ไขปัญหา ปรับปรุงข้อเสนอใหม่ๆ….ให้กับลูกค้าหรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้แบบทันทีทันควัน ที่เรียกว่า ‘Prompt responsiveness’ นั่นเอง MGAได้ทำให้มันเกิดขึ้นแล้ว หลายๆกิจการ นี่คือ Realtime KPIในการบริหารตลาด การขายยุค 4.0 ซึ่งเราจำเป็นต้องสร้างและปลูกฝังให้เกิดขึ้นกับแผง Frontline ทุกคนของเราด้วย

ยุคนี้เรามีเครื่องมือขายและวัดประเมินผลแบบRealtimeให้เลือกใช้มากขึ้น ทั้งแบบ Voice และ Non Voice อาทิ Page365 ,Line@ &Rich Menu ,MSG Inbox Chatbot ,Paypal, Click To Callเป็นต้น โดยมีทีมขายDrag Online คอยให้คำปรึกษาสินค้าบริการของเรา ทั้งในเวลาทำงานและเวลาหลังเลิกงาน

ส่วนKPIวัดผลประสิทธิภาพขายแบบReal Timeก็มีหลาย Platformให้เลือกใช้ฟรีในการเก็บข้อมูลการขาย อาทิ Google Drive , Saleforce.com ฯลฯ สามารถรายงานข้อมูลการขาย โอกาสการขายที่เปลียนแปลงทุกครั้งมีการติดตามลูกค้า รายงานการเพิ่มขึ้นและลดลง การวัดอัตราส่วนเปรียบเทียบ ในทุกๆกิจการ แต่ละประเภทการขายแบบRealtime ได้ทันที ลองค้นหาPlatformที่เหมาะสมข้างต้นไปทดลองงานจริงกันครับ

เราสามารถตั้งKPI การตลาด การขายยุคใหม่4.0 วัดผลการเก็บรายชื่อลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชม ผู้ที่สนใจ เข้าร่วมกิจกรรม ผู้ซื้อเพื่อกินยาวต่อเนื่องได้มากมาย อาทิ การจัด event, roadshow, seminar, exhibition หรือทำกิจกรรม CRM แบบ realtime เก็บข้อมูล ความต้องการ ความชอบ ไม่ชอบ ของลูกค้ ซึ่งผลสุดท้ายก็คือนำสู่การขายนั่นเอง

สำหรับกลยุทธ์การตลาด การบริหารการตลาดยุค4.0 ขอย้ำว่าทำแล้วต้องวัดยอดขายและความคุ้มค่าของเม็ดเงินที่ใช้ไปด้วยเสมอ จึงจะถือว่าต่อยอดเครื่องมือขาย4.0และสร้างทีมFrontline ได้คุ้มค่าครับ

Marketing 4.0 > Frontline4.0 ปรับหัวใจทีมขายและบริการใหม่



Frontline 4.0 ตอนที่ 1 ปรับทัพหน้าสู่ กลยุทธ์การตลาด


ตอบปรับหัวใจทีมขายและบริการใหม่






อาจารย์นิทัศน์ คณะวรรณ

เป็นที่แน่นอนว่าพอเรานำเทคโนโลยี เครื่องมือการตลาดใหม่ๆของยุค 4.0 มาใช้นี่ สิ่งที่ต้องปรับตามคือ แพลทฟอร์มและกระบวนการทำงาน หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Sales platform, service platform ก็ต้องปรับรื้อใหญ่ตามอย่างรอไม่ได้เช่นกัน เพราะนี่คือ ‘ทัพหน้า’ ที่ต้องสัมผัสลูกค้าโดยตรง ซึ่งต้องใช้ความพยายามและทักษะด้านการบริหาร ‘คน’ พอสมควร เพราะการปรับวัฒนธรรม พฤติกรรมทำงานที่คุ้นเคย ทำกันมานับสิบปีไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้โดยปราศจากการต่อต้าน

สิ่งที่ต้องนำมาเติมคือสายเลือดออนไลน์ซึ่งจะต้องนำมาผสมผสานกับสายเลือดออฟไลน์ดั้งเดิม เพื่อให้เดินประสาน สอดคล้องไปในจังหวะ ความเร็ว ลีลาเดียวกัน หลายครั้งที่เราต้องคัดหา ค้นหา ‘อาสาสมัคร’ เพื่อจุดให้คนในองค์กรเห็นถึงความสำเร็จและประโยชน์ของการนำระบบดิจิตอล ออนไลน์ และเครื่องมือการตลาด 4.0 มาใช้ อีกวิธีที่สามารถลดการต่อต้านคือต้องลดช่องว่างของความรู้หรือ Knowledge gap ลงให้ได้ เพราะพนักงานของเราต้องเรียนรู้และใช้เป็นมากกว่าลูกค้า เป็นสิ่งน่าละอายมากถ้าลูกค้ารู้เรื่องเหล่านี้มากกว่าเรา

ที่กล่าวมานี้คือแพลทฟอร์มใหม่ที่เราต้องสร้างให้ได้นั่นเอง เพราะมันคือหนทางสู่ความสำเร็จ มันจะช่วยให้เราจับติดตาม เก็บข้อมูลความเคลื่อนไหว ความต้องการของลูกค้า ได้ทุกขณะ ทุกสถานที่ ทุกเวลา

สิ่งที่จะต้องจัดให้มีในการตอบสนองลูกค้าอย่างทันควัน ถูกต้องคือ ‘10 FAQ’s’ ซึ่งเสมือนคู่มือที่ได้ผ่านการพิจารณา ซักซ้อมแล้ว ว่าเมื่อเจอคำถาม ข้อสงสัย ปัญหาจากลูกค้าแล้ว พนักงานขายหรือบริการของเราจะมีข้อมูลที่ถูกต้อง ตรงกัน ในการตอบ รับมือกับสถานะการณ์นั้นๆแบบใด

ปัจจุบันได้มีกระบวนการ เครื่องมือการตลาดใหม่ๆเข้ามาให้พนักงานเหล่านี้ใช้ เช่น การ Drag on line, line, auto reply, chatbot, inbox พนักงานของเรารู้จัก ใช้ได้แคล่วคล่องประมาณไหน มีการติดตามวัดผล ฝึกฝน อบรม เสริมทักษะให้ใช้ได้แคล่วคล่องหรือไม่ กับการทำงานยุค 4.0 ที่ต้องทำงานตลอดเวลา ตื่นตัว ไม่มีหยุด ถ้าท่านทำได้การจะสร้าง Lead ให้มากกว่าเดิม 5 เท่าขึ้นไป ขายได้มากกว่า 2 เท่าขึ้นไป โดยใช้งบการตลาดต่อยอดขายไม่มาก ทำได้แน่นอนครับ
นี่คือ อีกหนึ่งกระแสการเปลี่ยนแปลงที่ผู้ประอบการไทย ทั้ง SME’s ธุรกิจกลางเก่ากลางใหม่บ้านเรา ต้องก้าวให้ทัน เพื่อปรับ กลยุทธ์ธุรกิจ กลยุทธ์การตลาด ตลอดจน แผนธุรกิจ แผนการตลาด ให้ทันการตลาด 4.0 ครับ . สนใจคลิก ที่ปรึกษาธุรกิจ หรือ ที่ปรึกษาการตลาด



วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Marketing 4.0 > Frontline 4.0 ตอนที่ 3

การตลาด 4.0 > ปรับทัพหน้าอย่างไรให้รอดในยุค4.0



เกริน ทวนอีกครั้งครับ การพัฒนาการของบริษัทที่ผมเข้าไปเป็นที่ปรึกษามี 3 ประเภทใหญ่  กลุ่มแรกต้องการตามทัน เครื่องมือดิจิตอล ไม่ว่าเป็น เครื่องมือออนไลน์ เพลตฟอร์ม เฟสบุ้ค IG   Google . Adwords Line  Chatbot AI  กลุ่มสองคือ กลุ่มที่มีความรู้เรื่องดิจิตอลแล้วแต่ต้องการเชื่อมโยงเพลตฟอร์มทุกตัวให้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ออนโลเคชั่น  ของ ฝ่ายตลาด เชื่อมกับขาย เชื่อมกับบริการ  มีข้อมูล Realtime  ดูได้ 24/7 กลุ่มที่สองเน้น Integration    ส่วนคราวนี้เรามาคุยกันเรื่องกลุ่มที่สามครับ



ไม่ว่าความเข้าใจ 1จะเรียนรู้ไปมากเพียงใด  จะ อินทิเกจ ซอฟแวร์  ฮาร์ทแวร์ ดีเพียงใด เป็นวงจรตลอด ขบวนการธุรกิจ Business Process  แล้วก็ตาม แต่ การวางเครือข่าย ทั้งหมด เชื่อมโยงกัน นั้น คนที่เป็นขับเคลื่อน Digital Tools   Platform ต่าง และเชื่อมโยงระบบ System Integration  ต้องปฏิบัติตามระบบที่วางไว้ มีตัวชี้วัดที่ชัดเจน  และผูกเป้าหมายเข้ากับผลตอบแทนของพนักงาน  เราอยากได้อะไรก็ต้องใส่แรงจูงใจเข้าไป ทั้ง ความรู้  ความเข้าใจ เข้าถึง   พัฒนาทักษะ และ ทัศนคติ    โดยขบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ ยอมมีการต่อต้านและ คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอยู่มาก   คนเดิมๆจะเห็นว่าทำไมต้องเปลี่ยนแปลง  ไม่เปลี่ยนแปลงก็ไม่เห็นเป็นไร  เพราะพวกเขาเหล่านั้นยังอยู่ในเกราะภูมิคุ้มกัน ไม่รับรู้การเปลี่ยนแปลงภายนอก ว่า มีผลต่อธุรกิจ ตัวเขาอย่างไร  หากไม่ปรับพรุ่งนี้จะเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นในยุค Disruption  ซึ่งองค์กรที่เปลี่ยนไม่ได้ตามมาด้วย ลดคน ตัดคน ปลดคน ยุบแผนก ยุบสายผลิตภัณฑ์ ยุบธุรกิจที่ขาดทุนออกไปจากระบบ   คนจะสำนึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายนอกอย่างไร ว่าถ้าไม่ปรับจะเกิดผลกระทบอะไร อันนี้เป็นหน้าที่ ผู้บริหารโดยตรงในการสื่อสาร นำพา ตัวอย่าง และชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง  ผู้บริหารกลุ่มที่สองคือบังคับพนักงานเลยว่า ถ้าคุณไม่เปลี่ยนฉันก็จะเปลี่ยนคุณ  บางทีถึงกับบอกว่าใครทำไม่ได้ ออกครับ  ก็มีการขู่ในการประชุมเลย    ผู้บริหารบางท่านก็ไม่เชื่อว่าการผูกผลตอบแทนกับเป้าหมาย จะได้ผล  พวกนี้ถ้าอยู่เฉยๆและได้ตามน้ำเค้าเอาแต่ให้ออกแรงเค้าไม่เอากันครับ เชื่อผม   ถ้าองค์กรพบอุปสรรคตรงนี้ ถือว่า การเปลี่ยนแปลงมาถึงวงจรที่สามครับ  ขบวนการเปลี่ยนแปลง  นั้น จะเริ่มจาก

  1. ต้องเล็งเห็นว่าควรเร่งรีบเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารต้องสื่อสารกับพนักงาน 
  2. รวมพลผู้กล้า หาRole MODEL คนในองค์กร วีรชนต้นแบบ ที่พร้อมและมีความสามารถจะเปลี่ยนแปลง 
  3. ระดมความคิด
  4. ตั้งสู่เป้าหมาย
  5. เริ่มทำโครงการเปลี่ยนแปลง 
  6. รวบอุปสรรค ที่อาจเกิดขึ้น 
  7. ประเมินผลต่อเนื่อง
  8. ให้รางวัล และประกาศความสำเร็จ 
  9. ขยายผล ทั่วองค์กร
  10. ประกาศเป็นมาตรฐานและระบบขบวนการใหม่
นี่คือกระแสการเปลี่ยนแปลงที่ผู้ประอบการไทย ทั้ง SME’s ธุรกิจกลางเก่ากลางใหม่บ้านเรา ต้องก้าวให้ทัน เพื่อปรับ กลยุทธ์ธุรกิจ กลยุทธ์การตลาด ตลอดจน แผนธุรกิจ แผนการตลาด ให้ทันการตลาด 4.0 ครับ . สนใจคลิก ที่ปรึกษาธุรกิจ หรือ ที่ปรึกษาการตลาด


hostgator coupon