การตลาด5.0 > ควอนตัมคอมพิวเตอร์ ทำตลาดเปลี่ยนโลก
ควอนตัมคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนโลกการแข่งขัน
Quantum Marketing หรือ Marketing 5.0 จะมาด้วยเทคโนโลยี่ Quantum computer + AI ลองนึกว่าหากมี คอมพิวเตอร์ธรรมดาๆที่มี 4 bits แต่ละ bit มีสภาวะ เป็นได้ไม่ 0 ก็ 1 เท่านั้น หมายความว่า ความเป็นไปได้ที่ มันจะ สร้างชุดตัวเลขได้ทั้งหมด 16 ชุด หรือเท่ากับ 2ยกกำลัง 4 ดูภาพจะได้ไ่ม่งง นั้นหมายความว่า หากคอมฯจะ เดาข้อมูล password ที่อยู่ในชุดตัวเลขนี้ ต้องใช้การคาดเดาถึง 16 ครั้ง สุ่มตัวเลข แล้ว Hack เช่น 0000 ไม่ถูก มันจะเดาต่อว่า0001 ซึ่งก็อาจไม่ถูกอีก มันก็เดาไปเรื่อยๆ จนพบ เลขชุด 4 ตัวที่ใช่ สมมุติว่า เป็น 1110 นั้นหมายถึงคอมพิวเตอร์ธรรมดาต้องเดามากถึง 16 ครั้ง การเดาข้อมูล passwordแต่ละครั้ง มีโอกาสถูก 1 ใน 16
แต่ถ้าเป็น Quantum Computer ที่มี 4 Qubitsหรือ Quantum bit ที่มีสภาวะ 0,1 ได้ในเวลาเดียวในแต่ละ Qubit นั้นหมายถึงมันจะอ่านตัวเลขทั้ง 16ตัวได้พร้อมๆกันในเวลาเดียวกันที่เรียก Superposition มันจึงเดาข้อมูล password ได้ทันทีไม่ต้องใช้เวลาเดาถึง 16 ครั้ง แบบคอมฯธรรมดา มันจึงทำงานเร็วกว่ามาก ลองนึกถึงเวลาเราเดินทางด้วยกูเกิ้ล มันจะแนะนำเส้นทางสมมุติว่ามันสร้างเส้นทางที่เป็นไปได้ 16เส้นทาง ถ้าเป็น Quantum computer มันจะคำนวณทั้ง 16 เส้นทางพร้อมกัน และบอกเราว่าเส้นทางไหนดีที่สุด แต่ถ้าใช้คอมธรรมดามันอาจคำนวณที่ละเส้นทางแล้วค่อยเปรียบเทียบที่ละคู่แล้วค่อยบอกเราว่าเส้นทางไหนดีสุด สั้นสุด รถติดน้อยสุด ควอนตัมคอมฯจึงมาเปิดหน้าไพ่ ทั้งหมดพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน
ปัจจุบัน กูเกิ้ลเคลมว่า ตนเอง ถึงจุf Quantum Supermacy แล้วโดยสามารถผลิต 54 Qubits ที่มีความเร็วมากกว่า ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ต้องใช้เวลาคำนวณ10,000 ปี เทียบกับ Sycamore Quantum Processor ที่ใช้เวลาเพียง 200 วินาทีในการคำนวณ แต่ทาง IBM ออกมาโต้ตอบว่าไอ้งานที่ว่านี้จริงๆแล้ว ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ใช้เวลาแค่ 2.5 วัน ไม่ใช่ หมื่นปี
AI Chip ชิปที่ใส่คำสั่งอัลกอริทึม ช่วยในการเรียนรู้ของเครื่อง Machine Learning
ก่อนมี AI Chip ต้องบอกก่อนว่า เราสามารถเขียนโปรแกรมใส่ลงบนชิฟคอมพิวเตอร์ได้อยู่แล้วที่เรียก System On Chip SoC แต่ใน ส่วน AI Chip ที่มือถือหลายค่ายได้นำไปใส่นั้น และ ชิป Ascend ของ Huawei Intelchip Gen10 ก็เคลมในเรื่องการใส่ AI chipเข้าไป เพื่อช่วยให้เครื่องเรียนรู้ Machine Learning
นั่นคือ Advance Algorithm ที่ใส่เข้าไป ทั้งในรูปแบบ CNN ซึ่งเน้นไปที่ การจดจำภาพ Visual กับ RNNนั้น จะเน้นหนักไปที่ VoiceเสียงและTextตัวอักษร เราจะกล่าวถึงต่อไป ชิฟนี้มีส่วนช่วยเรื่องประมวลผลและการเรียนรู้ Machine Learning ซึ่งมันจะเก็บข้อมูลประจำวันเข้ามาประมวลผล ตัวอย่างเช่นภาพหน้าเราตอนเปิดมือถือ ปลดล็อคหน้าจอ มันไม่ได้จำหน้าเราเฉพาะแค่ครั้งแรกที่บันทึก มันจะเก็บข้อมูลเราทุกครั้งทุกๆวัน เรียนรู้หน้าเราทุกวันว่าหน้าเราเปลี่ยนไปได้หลายแบบ เช่น วันโน้นผมยาว วันนี้ผมสั้น วันนี้ทาคิว เขียนปาก ทาอายด์ชาโดว์ แต่งหน้าเข้ม มีรูปหน้าเปลี่ยนไป เพราะไปทำ Hifu Ulthera มาคางแหลมขึ้น หน้าเรียวขึ้น แต่ก็ยังเป็น นส.สวย อยู่ดี มันมีการเรียนรู้ ลองนึกดูว่าหาก IoT ที่ทุกอุปกรณ์ที่เราใช้ในชีิวิตประจำวัน มีข้อมูลวิ่งทุกวัน เรียนรู้ทุกวัน มันเรียนรู้เรา พฤติกรรม ความชอบ เรา มันเสนอแนะเรา แทน รีวิวจาก โซเชียลมีเดีย เราเชื่อมันมากกว่ารีวิว ออนไลน์ เพราะมันคือภาพสะท้อนการเก็บตัวตนเราในทุกๆวัน มันรู้จักเราเข้าใจเรา เป็นเพื่อนที่แสนดีกับเรา และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา Share of life และนี่คือการตลาด 5.0 ที่กำลังจะอุบัติใหม่ขึ้น ที่ต้องอาศัยความรู้ Big Data Analytics Advanced Statistics การใช้โปรแกรม Phython Tensor Flow2.0 เข้าใจการเรียนรู้ด้วยภาพ Visual Recognition จาก Convolution Neuron Network CNN และการเข้าใจภาษาธรรมชาติที่เป็นแบบ Sequential เรียก Natural Language Processing NLP ที่อาศัยหลักการเอาข้อมูลก่อนหน้ามาทำนายว่าเราจะพูดหรือค้นหาอะไรต่อไป เหมือนตอนเราค้น Searchในกูเกิ้ล มันจะเสนอแนะ คำค้นถัดไปให้เรา เช่น ร้านอาหาร มันจะเติมต่อท้ายให้เรา อร่อยใกล้ฉัน หรือ ญี่ปุ่น เป็นต้น ข้อมูลพยากรณ์ต่อไปจะขึ้นกับคำก่อนหน้าที่เราคีย์ หรือพูดถาม เช่น เราแค่พูด 1 ดอลล่าร์ มันก็จะต่อให้เรา เท่ากับ 30.5 บาท เอง อัตโนมัติ เทคนิคนี้คือ Recurrent Neural Network RNN ทั้งนี้มันจะเสนอแนะอะไรก็ขึ้นกับประวัติการค้นหาของเราในอดีตนั้นเอง ว่าอันไหนตรงใจเราไม่ตรงใจเรา Algorithm ทั้งคู่เป็น DL Deep Learning ที่คอมพิวเตอร์เลียนแบบ ระบบสมองของคน ในการทำงาน เรียนรู้ จดจำ โต้ตอบกับเรา ซึ่งเราต้องสอนมัน ด้วยข้อมูลพฤติกรรมของเราเอง ว่าอะไรตรงประเด็น ไม่ตรงประเด็น จนมันรู้ใจเรา เป็นเพื่อนที่แสนดีกับเรา