Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

พิชัยสงครามไทย > กลยุทธ์ธุรกิจ >กลยุทธ์ 15 ย้อนภูเขา

พิชัยสงครามไทย เพื่อกลยุทธ์ธุรกิจ กลยุทธ์ ย้อนภูเขา



๑๕. กลยอนภูเขา
กลหนึ่งยอยภูเขา ข้าศึกเนาประชิะ
ให้ริะดูช่องชอบ ที่จะขอบจะขัง
แต่งระวังยักย้าย ฝ่ายพลเขาเอาเสบียง
เรียงงานในเมืองเรา เอาใจไพร่ใจพล
คนอยู่ประจำการ พนักงานใครใครรบ
แต่งบรรจบพลแล่น ให้ทำแกว่นชวนกัน
แต่งถลวงฟันบุกทัพ คอยฟังศัปทสำคัญ
หาที่ยันที่อ้าง เอาม้าช้างเป็นดิน
ปืนคูหักค่ายเข้า รบรุกเร้ารุมแทง
อย่าคลายแคลงพรายพรัด ตัดให้ม้วยด้วยกัน
ให้สำคัญจงแม่น แล่นช้างม้าวางขวาก
เขาตามยากเอาเรา เท่าทิศที่ตนหมาย
ฆ่าให้ตายกลากลาด ต้องบาดเจ็บป่วยการ
ศัตรูดาลระทด ขดด้วยเสียงปืนไฟ
ในเมืองเร่งโห่ร้อง ให้มี่ก้องนิรนาท
มีปี่พาทย์เสียงสรวญใน ชมชื่นใจขับรำ
ซ้ำทนงองอาจ ปืนไฟพาดประนัง
กลชื่อพังภูเขาฯ


  เป็นกลยุทธ์ลวงข้าศึกให้หลงกล  หลอกจะตีซ้ายแต่เข้าตีขวา  หลอกตีด้านหน้า แต่เข้าตีด้านหลังเหมือนตอน พระนเรศ ตีเมืองคัง  ที่ตั้งอยู่บนผาสูง  แต่เอาคนน้อยหลอกเข้าตีด้านหน้า  แต่กำลังส่วนใหญ่นำเข้าตีด้านหลัง  เช่นเดียวกับกลยุทธ์ธุรกิจ  มักมีการออกข่าวลวง  เช่นบอกดีเลอร์ว่าจะขึ้นราคานะ  แต่ไม่ขึ้นสักที่  คู่แข่งก็เสียทีขึ้นราคาไปก่อน  อย่างนี้คู่แข่งรายใหญ่ก็เสียเชิงไป    บอกว่าจะขึ้นราคา นะ ดีิเลอร์ก็ตุนของเข้าโกดังไปแล้ว คนบอกว่าขึ้นคือ พนักงานขาย  แต่ บริษัทบอกยังไม่ขึ้น  มันเป็นชั้นเชิงทางธุรกิจ   ที่ได้ 2 ต่อ    บางที่ก็ลวงคู่แข่งว่าจะออกสินค้าใหม่ มาแข่งทำให้คู่แข่งลดราคาสินค้าที่เป็นตัวเอก ปกติก็ขายดีอยู่แล้ว ยิ่งลดราคาลงเพื่อโหลดสต๊อค หน้าร้านไม่ให้สินค้าใหม่เข้า  แต่หารู้ไม่ลดราคาเสียหายไปเยอะ พอเจ็บตัวครั้งแรก  คู่แข่งก็บอกว่ายังไม่สมบรูณ์รอปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดีรับรองว่าสุดยอด  บอกข่าวลวงในตลาด   ไอ้เจ้าตลาดก็ทำโปรโมชั่นอีกพอมีข่าวว่าผลิตภัณฑ์ใหม่คู่แข่งจะออกมาแล้วที่นี่จะออกจริงๆ  ก็เสียเงินโปรโมชั่นไปอีกแล้ว      แต่ครั้งที่สามคราวนี้คู่แข่งออกมาจริงๆ แต่เจ้าตลาดก็บอกหรอกกูอีกแล้ว  ก็เลยไม่ทำ เพราะเจ็บตัวเสียเงินไปสองรอบแล้ว  งบโปรโมชั่นหมดแล้ว   ถ้าโดนหลอกรอบสามมีหวังนายไล่ออกแน่ๆ     ความเร็วมิใช่จะได้เปรียบเสมอ ไป การออกสินค้าใหม่ หากมีเจ้าตลาดอยู่  กลยุทธ์ย้อนภูเขาเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้เจ้าตลาดเดิมต้องคิดหนัก ว่ามันจะหลอกกูอีกไหม   การออกข่าวลวงทำได้ทั้งผ่าน PR   ผ่านดีลเลอร์ ตัวแทนขาย     ผ่านเครือข่ายธุรกิจ  สมาคม    ผ่านโซเชียลมีเดีย   ลวงว่ารุกแต่ไม่รุก ครันเมื่อบุกจริงแล้วต้องทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดลงในจุดชี้เป็นชี้ตาย   ตอนมิชิลินบุกตลาด เป็น tyre plus นั้น ได้เจาะเอา สมาคมผู้ค้ายางรถยนต์   มาทำกิจกรรม พัฒนาเถ้าแก่ร้านยางสู่ความเป็นมืออาชีพ  ทำตั้งแต่  การจัดหน้าร้าน  การให้บริการ   กลยุทธ์ตลาด  กลยุทธ์รักษาลูกค้าประจำร้าน  การเงินธุรกิจ และกฎหมายธุรกิจ  ไม่ใช่เรียนอย่างเดียวแต่มีการทำนำร่องนำความรู้ที่ได้ไปใช้จริงโดยมีทีมที่ปรึกษาลงช่วยจริงหน้าร้าน    แล้ววัดผลแล้วนำความรู้มาแบ่งปันกัน   ซึ่งตอนแรกๆดีลเลอร์ค้ายางก็ไม่กล้าบอกกัน กลัว    แต่พอเปิดใจได้เขาเป็นเพื่อนกัน  รวมกันทำธุรกิจ ซื้อของแจกลูกค้า รวมกันซื้อได้ราคาถูกกว่า ทำกิจกรรมตลาดร่วมกัน เป็นเครือข่าย นี่คือความแข็งแรงที่ แบรนด์มอบให้แบบจริงใจ และผลตอบรับคือการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจไม่ใช่เป็นแค่พนักงานขายยางที่คอยแต่จะดันยอดขายเข้าสต๊อค   พนักงานขายเปลี่ยนเป็น Account Manager ดูแลให้คำปรึกษาลูกค้า  ช่วยลูกค้าเอาสินค้าออกจากร้านด้วย  ไม่ใช่เอาแต่ดันสินค้าเข้าร้านเพื่อสร้างยอดกินค่าคอมมิสชั่นไปเดือนๆ    นี่คือจุดชี้เป็นชี้ตายคือ พัฒนาดีลเลอร์รายใหญ่ก่อนแล้วเปลี่ยนเขาให้เป็น  Soft Franchise เหมือนกับ cockpit  ของบริดสโตน์  และ  Eagle ของ Goodyear ซึ่งทั้งสอง ร้านเครือข่ายมีมาก่อน มิชชิลิน  แต่มิชชิลินก็เลือก ร้านค้ารายใหญ่และเปิดใจ หัวทันสมัยเข้ามานำร่อง ซึ่งก็คือเส้นเลือดใหญ่ของการค้ายางในจังหวัด    ทุ่มเททรัพยากร ตกแต่งหน้าร้าน  เครื่องมือตั้งศูนย์ถ่วงล้อ   พัฒนาความเป็นมืออาชีพในการบริหารร้าน   และ กลยุทธ์การตลาด แล้วร้านต่างๆเหล่านี้ก็เริ่มเปลี่ยน หน้าร้านเป็น Tyre plus     หลักคือรุกด้วย  การขายความสำเร็จทางธุรกิจให้ มิใช่ขายยาง หรือผลิตภัณฑ์ ขายเครื่อง ขายการตกแต่งหน้าร้าน   แต่เป็นพี่เลี้ยงธุรกิจ และให้ร้านลูกข่ายมั่นใจ ในการเข้ามาอยู่ในสังกัด    ขายที่ผลลัพธ์ของมัน  หรือ End result    ในขณะที่คู่แข่งคิดว่าคงจะมาในรูปแบบการให้ ซื้อยางเท่านั้นเท่านี้ในราคาส่วนพิเศษตามเป้าขาย   ตกแต่งร้านให้   หาเครื่องตั้งศูนย์ถ่วงล้อมมาลง     มีของแจกตอนเปิดร้าน เปล่าเลยไม่ได้มาแบบ Push   ดันของเข้าร้าน แต่มาแบบPull  ช่วยให้ของออกจากร้าน นี่คือกลยุทธ์ย้อนภูเขา 
ไว้พบกันไหมครับ  หากท่านชอบในตอนหน้าจะพูดกลยุทธ์เย้าให้ผอม  มาประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์ธุรกิจอย่างไร

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Marketing 3.0 > Social Commerce

การตลาด 3.0  Social Commerce




เราคงได้ยินคำว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรือ E Commerceมาแล้ว ว่ามีศักยภาพเพียงใด  แล้วเราก็ได้ยินคำว่า M Commerce หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บนมือถือ  โดยใช้เงินที่มีในมือถือ หรือ เครดิตที่มีในมือถือซื้อของผ่านระบบออน์ไลน์   และเราก็ได้ยินคำว่า Social Commerce หรือ  f Commerce   เนื่องมากจาก Facebook Effect   หรือโซเชียลมีเดีย
  1. ในตอนแรกที่เกิดมันมากจากการสั่งซื้อมาเป็นกลุ่มๆ Group buying   ยิ่งจำนวนคนมารวมกันสั่งซื้อร่วมเท่าไร ก็จะยิ่งได้ราคาถูกลงเท่านั้น รวมซื้อกันเป็นกลุ่มคุ้มประหยัดกว่าอะไรทำนองนั้น     ซึ่งเจ้าตำหรับอย่าง Groupon ซึ่งมาเปิดตัวแล้วในประเทศไทย   ต่อมามีการปรับอีกคือ  ทำเป็นการซื้อคูปองลด  อย่าง ENSOGO    Dealdidi  แม้กระทั่ง  weloveshopping.com    ผู้ทำ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ก็อุตส่าห์กระโดด มาทำ  โดยแนวคิดสำหรับผู้ซื้อหรือแนะนำเพื่อนมา จะได้รับคะแนนหรือเครดิต นำไปใช้ซื้อ สินค้า หรือคูปองในราคาพิเศษ  เรียกแนวคิดนี้ว่า Share&Earn ตัวอย่างเช่น  shopa.com  ฟอร์มใหญ่จากยุโรป ส่วนเจ้าของแบรนด์สามารถรวม 3 สิ่งเข้าหากัน คือ แบรนด์  ผลิตภัณฑ์(ที่ตั้งใจจะโปรโมท) และ Offer หรือข้อเสนอจูงใจ  เพื่อทำให้เกิดความต้องการ  ลูกค้าสามารถระบุได้ ว่า    like  ชอบ want อยากได้ฮะ  ownหรือซื้อเลย       
  2. พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ใน โซเชียลมีเดียเอง  เช่น FB เองมี market place ที่ให้คนไทยไป post ของลงขายได้    แล้วก็ face commerce ที่ให้เราทำ Social commerce   ดูวิธีการ ใน Social Commerce plus
  3. การนำ Facebook plug-in  เข้าไปบวกใน เว็บของเรา เพื่อให้ สาวกแบรนด์วิพากวิจารณ์   
  4. การนำมันไปบวกใน  Location-based  Marketing ซึ่งได้กล่าวไปแล้วในตอนที่แล้ว  โดยมีส่วนในการสร้างเงื่อนไขในการ เช็คอินน์  การจัดโปรโมชั่นมีเงื่อนไขอะไรที่ทำได้บ้าง ที่จะไดัสิทธิพิเศษ เช่นของแจกหรือส่วนลดพิเศษ เช็คอินตามวันและเวลาที่กำหนดเท่า นั้น ได้สิทธิพิเศษ เช็คอินกี่รายแรก 10 รายแรกได้สิทธิ เช็คอินกับเพื่อน 5 คนได้สิทธิ เช็คอินเป็นครั้งที่ 4 ได้สิทธิ เช็คอินกี่สาขาหรือร้านของเราถึงได้สิทธิ  ดังภาพแสดง

ครับก็เป็นอันว่าท่านพอได้ทราบแนวทางในการประยุกต์ใช้ Social Commerce  แล้วนะครับ ส่วนมีนักการตลาดหลายคนค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับการขายของบน FB ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า และ หากเป็นข้อแนะนำแล้วนำสาวกกลับมาที่เว็บขายของเพื่อ ซื้อน่าจะเหมาะสมกว่า ก็ว่ากันไปนะครับแล้วแต่ความคิดเห็นไว้พบกันในฉบับหน้าครับ
สำหรับท่าน ที่สนใจ  DVD ชุด Marketing 3.0 Perfect ความยาว 90 นาที พร้อมเอกสารบรรยายประกอบอย่างละเอียด และ ชุด power point เพื่อนำไปใช้อบรม พนักงานในองค์กรของท่าน ได้จาก link นี้  Marketing 3.0 Perfect   หรือ โทร 02-9079131 อย่าลืมอ้างสิทธิเป็นสมาชิกThaimarketing ของผม
 รับส่วนลด 20% ได้เลยครับ
    hostgator coupon