Marketing 3.0 > Content Marketing

การตลาด 3.0 >  Content Marketing

ความถี่ในการสื่อสารพูดคุยกับลูกค้าหรือสาวก

 

ในบทความที่แล้ว เราพูดถึงฝังลูกค้า ว่าอิทธิพลของ โซเชียลมีเดียมีมากต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และลูกค้าไปคลิก ถูกใจเพราะอะไร  หน้าเพจของธุรกิจไหนที่คนชอบเข้าไปดู   คราวนี้ลองดูซิว่า Content Marketing   ว่านักการตลาดหรือเข้าของแบรนด์นั้น มีความถี่Frequency ในการสร้างเนื้อหาเพื่อการสื่อสารและเรื่องราวให้ลูกค้าหรือสาวก ของนักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ พบว่าการสื่อสาร ผ่านสื่อออน์ไลน์ ความถี่หรือความบ่อยครั้งในการสื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะผ่าน โซเชียลมีเดีย อีเมล์ ข่าวพีอาร์ออนไลน์ พบว่า 1/3 สื่อสารทุกวัน 1/3 สื่อสารทุกสัปดาห์ อีกประมาณ 1/3 ทุกเดือนหรือทุกๆไตรมาส เพียง 5% ที่ยังไม่รู้จักใช้การสื่อสารออน์ไลน์

ช่องทางการสื่อสารการตลาด

        มาดูช่องทางการสื่อสาร Marketing Channel หรือเครื่องมือการตลาดออน์ไลน์ ที่แบรนด์ใช้ในการสื่อสารการตลาด หรือ ประชาสัมพันธ์ไปยังลูกค้า จากการวิจัยของ Curata เห็นได้ชัดเจนว่า 76% ใช้โซเชียลมีเดีย อย่างFacebook Twitter G+ 57%ใช้อีเมล์ส่วนตัว(น่าจะสำหรับ SMEs หรือเรื่องธุรกิจที่เป็นความลับเฉพาะกับลูกค้า) 54% ใช้ Blog หรือบทความออน์ไลน์ 50% ใช้ E Newsletter ส่งหาลูกค้า 20% ผ่าน RSS Feed และมี 11% ส่งเอกสารตัวจริงไปให้ลูกค้าเลยไม่ว่าทางไปรษณีย์หรือใช้สิงห์นักบิดไปให้ ซึ่งถือว่าน้อย มองอีกแง่หนึ่ง 11% นี้ไม่ใช่พวกหลังเขาอย่างที่เราคิด แต่จากกราฟผมมองต่างมุมว่า โซเชียลมีเดีย E Newsletter เป็นการสื่อสารแบบกว้างๆ Blog เป็นบทความที่ลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น เมื่อเขาสนใจระดับหนึ่งลูกค้าจะเข้ามาอ่านบทความในบล็อค ส่วนอีเมล์ส่วนตัว RSS Feed ก็คงต้องเป็นกลุ่มที่สนใจหรือติดตามสม่ำเสมอพอสมควรจึงยอมสมัครรับข่าวสาร และเมื่อแน่ใจก็ส่งเอกสารชุดพิมพ์จริงไปให้ กับมือลูกค้า อาจเป็นโบรชัวร์ แผ่นพับ หรือ ชุดนำเสนอเป็นเล่ม นี่คือกลยุทธ์ จับคู่ Matching ระหว่างสื่อการตลาดกับ คุณภาพของลูกค้า เพื่อหาคู่ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ครับ
         สำหรับ Marketing 3.0  หากท่านสนใจชุดศึกษาเพื่อนำไปใช้งาน คลิก Marketing 3.0 Perfectชุดศึกษาด้วยตนเองครับ  ไว้พบกันฉบับหน้าครับ

Marketing 3.0 > Social Marketing

การตลาดยุค 3.0 > Social Network Marketing

อิทธิพลของ Social Media

    การตลาดยุค 3.0 นั้นมี เครื่องมือที่สำคัญตัวหนึ่งคือ Social Media  ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของลูกค้า เราต่างก็รู้ว่า เพื่อนเชื่อเพื่อนมากกว่า โฆษณา แต่ที่น่าแปลกคือ ทำไมลูกค้าจึงเชื่อ ข่าวสาร เนื้อหาที่พูดคุยกับลูกค้าแบบเพื่อนผ่าน Social Network Post ที่สื่อสารออกไปโดยแบรนด์หรือ เจ้าของผลิตภัณฑ์ เห็นที่ว่าไม่ทำไม่ได้แล้วนะ เพราะมันมีอิทธิพล ต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคถึง 78% พอๆกับ WOM Word of Mouth อิทธิพลของลมปากจากการบอกต่อของเพื่อนๆ 81% ทาง Social Media สิ่งที่เราPost ลงไปถ้ามีคุณค่าพอ กลุ่มเครือข่ายก็จะกระจายมันออกไป จึงมีการเรียกว่ามันคือ Worth of Mouth อย่าลืมต้องมีค่าพอที่เพื่อนเห็นว่าสมควรแชร์มันออกไปให้เพื่อนๆรู้  

สาเหตุที่คนคลิกถูกใจ

  สาเหตุที่ลูกค้าชอบเข้าไปกด Like หรือ ถูกใจ ใน Facebook Fan Page สิ่งล่อใจของแบรนด์และเจ้าของผลิตภัณฑ์ใช้อะไร จาก Market Force Survey พบว่า 79% คลิก Like ให้เพราะลูกค้าได้รับส่วนลด หรือของรางวัลหากคลิกถูกใจ     70% คลิกถูกใจเพราะแบรนด์จะบอกว่ามีกิจกรรมลดกระหน่ำ ซัลเมอร์เซลที่ไหนเมื่อไร หรือ มีการจัดงาน เช่น คอนเสริต์ ลำซิ่ง ชิงโชค เปิดตัวใหม่   28% คลิกLikeเพราะ ลูกค้าชอบมาเม้าท์กับเรื่องแบรนด์ ประสพการณ์ต่างๆเกี่ยวกับแบรนด์ทั้งดีและไม่ดี เหมือน สภากาแฟที่มาเมาท์เรื่องละครน้ำเน่ากันนั้นแหละ ก็ดูด้วยกัน แต่ก็มาเมาท์กัน สนุกปากไปงั้นๆ

ประเภทของ Page ที่คนชอบคลิก

      น่าคิดว่า ทำไม Facebook Page ที่แบรนด์ต่างๆนั้นพยายามสร้างสาวกและให้มาคลิก Like แม้กระทั่งก๋วยเตี๋ยวห้อยขาพิษณุโลกยังมีป้าย คลิก Like หรือถูกใจ พบว่า ผู้บริโภคสหรัฐ คลิกถูกใจกับ ภัตราคาร ร้านอาหาร 86% แหล่งซ้อปปิ้งหน้าร้า 75% บันเทิง 65% ท่องเที่ยว40% บริการทางการเงิน 13%

     สำหรับ Marketing 3.0  หากท่านสนใจชุดศึกษาเพื่อนำไปใช้งาน คลิก Marketing 3.0 Perfectชุดศึกษาด้วยตนเองครับ  ไว้พบกันฉบับหน้าครับ