Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

Marketing3.0>Marketing-Secret2.1

Marketing3.0 > ถอดบทเรียนการตลาดและสูตรลับการตลาด ยุค2.1 Marketing-Secret2.1


  ครั้งที่แล้วเราพูดถึงบทเรียนการตลาด ยุค 1.0  ในฉบับนี้เป็นเรื่องราวต่อจากยุคแรก และเริ่มต้นเข้าสู่ ยุค2.0  Marketing-Secret2.1 นักการตลาดเริ่มเน้นยอดขาย ทำยังไงที่จะเอาภาพที่ได้นั้นมสร้างยอด จึงเป็นที่มาของการสร้างยอด ด้วยการเน้น การตกแต่งจุดขายด้วย 5 Sense Marketing หรือสะดุด ตา สะดุดหู สะดุดด้วยการใช้กลิ่นหอม ให้ชิมทดลอง หรือได้สัมผัสที่เรียกว่า สุนทรีย์ศาสตร์ Aesthetic เพื่อสร้างอารมณ์และความตื่นเต ณจุดขาย การจัดวางผลิตภัณฑ์และตกแต่งหนาร้านให้น่าสนใจ VMD  จะเห็นว่าภาพก่อนจัด และหลังจัด ในร้านค้าปลีกโชห่วย  ก็สามารถจัดให้ดูดีแบบซุปเปอร์มาร์เก็ตได้

แสดงการจัดหน้าร้าน ด้วยการจัดเรียงสินค้าให้ดูเรียบร้อย เป็นหมวดหมู่และสะดวกต่อการค้นหาและหยิบ

 เมื่อลูกค้าสนใจ ต้องให้เกิดการทดลองTrial  สวมใส่ ทดลองชิม ทดลองขับTest Drive ซึ่งอัตราการปิดการขายจะเพิ่มขึ้นทันที เป็น 1ในหลังจากที่ลูกค้าได้ทดลองแล้ว การเร่งเร้าให้รีบตัดสินใจด้วย โปรโมชั่น ซึ่งมีข้อพิจารณา เช่น ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ลดครึ่งราคา 50% แม้ว่าต้นทุนการตลาดฝั่งเราจะเ่ากัน แต่ในสายตาลูกค้ามองไม่เท่ากัน พบว่าการใช้คำโปรโมชั่นมีผลต่ออดซื้อต่างกัน  




        ส่วนสุดท้ายคือการสร้างประสการณ์ที่ดีให้ลูกค้าเห็นภาพปลาทาง เช่น โชว์เฟอร์นิเจอร์แต่งทั้งห้อง เครื่อสุขภัณฑ์แต่งทั้งห้องน้ำ เสื้อผ้าใส่บนหุ่นและภาพดูราแท มีนายแบบนางแบบ มาแนะนำผลิตภัณฑ์ หรือนำ คนหน้าตาดีมาเชียร์ผลิตภัณฑ์   หรือการจัด Event งานแสดงต่างๆ 

การจัดโชว์สินค้าสร้างอารมณ์ด้วยการฉายภาพปลายทางทั้งห้องให้เห็นไม่ต้องจินตนาการ
 

ทีเรียก Experiential Marketing หรือ CEM ซึ่งได้รวมเอาบริการ Service ไม่ว่าบริการก่อนการขาย เช่นตรวจสภาพผิวผม บริการขณะขาย คือแนะนำ ช่วยเหลือลูกค้าให้คำปรึกษา   และบริการหลังการขาย เช่น จัดห่อ ลงถุง และเดินบิล การตลาดยุคนี้จึงเน้น POP POS ที่พยายามเก็บเกี่ยว ทุนจากการสร้างภาพ มาแปลงเป็นสร้างยอดให้ได้ 
สูตรลับในยุค 2.1 คือ การกระตุ้นเร่งเร็วลูกค้าให้ได้ เมื่อลูกค้าสนใจสินค้าหรือผลิตภัณฑ์แล้วจนกระทั่งต้องมาแวะชม เยี่ยมหน้าร้าน หรือจุดขายของเรา    เราจะใช้ การกระตุ้นผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า  และ การให้บริการการต้อนรับ ที่ดี ให้ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ และ กระตุ้นด้วย โปรโมชั่นให้ลูกค้าไม่ประวิงเวลา หรือถ่วงเวลาตัดสินใจซื้อออกไป     ครั้งหน้าเราจะพูดถึง ถอดบทเรียน ความลับการตลาดยุค ที่ 2.2   มาให้ครับ

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

Marketing3.0>The-new-marketing-tools

Marketing3.0 > The new Marketing tools

คลิปวิดีโอ ที่ผมอัดรายการ  สังเวียนธุรกิจ ทาง Nation TV

I Marketing 3.0 > Social Marketing

ว่าด้วยเครื่องมือทางการตลาดทางเครือข่ายสังคมออน์ไลน์   Facebook มีคนไทยใช้ 23% Twitter  1 ล้านคนไทย   Google 1.8 แสนคน   LinkedIn  เครือข่ายสำหรับผู้บริหารและนักธุรกิจ    พฤติกรรมคนเข้าเว็บและ Facebook    ความถี่ในการ POST เนื้อหา



II Marketing3.0 > Facebook 

Facebook Profile หน้าบ้านส่วนตัว  Facebook Page  หน้าบ้านสำหรับแบรนด์ บริษัท  หรือ Event    Facebook Group สำหรับกลุ่มเน้นปฏิสัมพันธ์


 

III  Marketing3.0 > Mocial Marketing

เครื่องมือการตลาด Mobile Marketing + Social Marketing และ Mocial Marketing
เมื่อคนไทยมี อัตราเจาะ มือถือ 120% การเข้าถึงคนไทย 80% เนื่องจากบางคมมีมือถือ มากกว่าหนึ่งเครือง  และมือถือเข้าเน็ตได้ 12 ล้านคน  หรือ Mobile Internet    มือถือสามารถระบุตำแหน่ง Location  ที่เรียก Location Based Marketing โดยผสมผสานกับ QR code ณจุดขายที่เรียก POP POS  ด้วยหัวใจของ Point-Know-Buy







Marketing3.0>Marketing Trend

 Marketing3.0>Marketing Trend

รวมคลิปวิดีโอ สัมภาษณ์ทาง รายการสังเวียนธุรกิจ  ทาง Nation TV

I Marketing Trend  


แนวโน้มการตลาด Online ทั้งตลาดทั้งหมด และ ธุรกิจ SMEs ใช้การตลาดแบบออน์ไลน์มากขึ้น ชมคลิปวิดีโอ   ทั้ง  Email Marketing  SMS   Social  Media   E Commerc  Social Commerce และ  Location Based Marketing     การตลาด จาก   Outbound เป็น Inbound     จาก  on-off  เป็น Ongoing  จาก Passive เป็น Active และ Interactive  หรือมีปฏิสัมพันธ์และ  Engagement กับลูกค้า




II การพัฒนากลยุทธ์การตลาดจากยุค 1.0 ถึง ยุค 3.0 Marketing1.0  to Marketing 3.0 

   Marketing 3.0 ตอนที่ 1  จากเน้น Identity อัตลักษณ์ สร้างภาพ มาสู่ Image ภาพลักษณ์ คือสร้างยอดและสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า  มาสู่ Integrity สิริลักษณ์ หรือ ความดี เพื่อสร้างลัทธิหรือสาวก  ชมวิดีโอด้านล่าง
 



III   Total Marketing    

นักการตลาดจำเป็นต้องผสมผสานการตลาด Online และ Off-line หรือสื่อแบบดังเดิม เป็นกลยุทธ์ การตลาด 3.0  หรือกลยุทธ์การตลาดในยุคนี้ 






IV  กลยุทธ์การตลาด Online

การตลาด Online ด้วยหลักของ POST    People กลุ่มที่เราต้องการเข้าถึงหรือสื่อสารถึง ที่เป็นเป้าหมายทางการตลาดเรา  Objective  วัตถุประสงค์การตลาด ว่าต้องการให้เกิดการรับรู้  Engagement เกิดการขายหรือ เกิดความผูกพันธ์   Strategy กำหนดกลยุทธ์ 3Is    แล้วจึงเลือกสื่อทางเทคโนโลยี่ต่างๆ  Technology  เป็น เว็บ  Youtube  Social Media    SMS  Email   E-commerce  Location -Based Marketing

 

Marketing 3.0 > Marketing Secret 1.0


Marketing Secret > ถอดบทเรียน เคล็ดลับการตลาดยุค 1.0


ผมได้มีโอกาสไปบรรยายให้ผู้ประอบการนนทบุรี เมื่อวัน พุธที่ผ่านมา และแชร์สิ่งที่ผมเรียนรู้มา จากการผ่องถ่ายทักษะการตลาด ตลอด 25 ปีที่ผ่านได้ผ่านยุค การตลาดมา 3 ยุค และ สรุปบทเรียนการตลาดแต่ละยุคไว้   เริ่มแรกคือ อัตลักษณ์ Identity มีการเปลี่ยนแปลงได้แล้วแต่ความเหมาะสมแต่ละยุคสมัยในภาพจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของตรายี่ห้อ อัตลักษณ์ น้ำมันเชลล์   ที่มีการปรับรูปลักษณ์ให้ทันสมัยตลอดเวลาตามกาลสมัยในแต่ละยุค 




การตลาดยุด 1.0  นั้นความลับในยุคหนึ่ง   Marketing Secret1.0 เป็นยุคของการสร้างภาพ หรือที่เรียกว่าสร้างแบรนด์ ซึ่งประกอบด้วย อัตลักษณ์ โลโก้ สีสัน ชื่อแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ ก็มีการออกแบบ แบรนด์ให้จำง่าย โดยใช้ คน สัตว์ สิ่งของแต่สื่อนำพา  ให้คนจดจำได้ง่าย เห็นครั้งเดียวจำได้ 

      1  ใช้คนเป็นตัวแทน  แบรนด์ เช่น ตัว Donald ของ Mc Donald ตัวผู้พัน แซนเดอร์ ของ KFC ตัวโก๊ะตี้ ข้าวมันไก่ มาร์โบโล คาว์บอย แม่ประนอม เซียงเพียวอิ้ว พันท้ายนรสิงห์ 

    2.การใช้สัตว์ เป็นตัวแทนแบรนด์ เช่น ปูนซิเมนต์ไทยใช้ช้าง ปูนตราเสือ ปูนนกอินทรีย์ เครื่องดืฉลาม Shark 






3.การใช้สิ่งของหรือสถานที่ เช่น Apple ภูเขาไฟ ฟูจิ    หอ ไอ เฟล ฝรั่งเศล หอเอียง ปิซ่า อิตาลี เทพีเสรีภาพอเมริกา 



ส่วนชื่อนั้น มักจะต้องมี Adjective ขยาย ชื่อ เช่นน้ำปลาตราสร้อยแท้ ปลาสลิดหอม สีสันมักใช้ให้เข้ากับผลิตภัณฑ ว่าสำหรับหญิง หรือชาย เย็นหรือ ร้อน


เรื่องการสร้างแบรนด์และสำคัญไม่แพ้ชื่อ หรือ อัตลักษณ์ ตรายี่ห้อ คือ การสร้างตำนานหรือชาติตระกูลให้แบรนด์เรา สังเกตว่า เมื่อพูดถึง สาลี่ทำไมต้องเป็นสุพรรณบุรี   โมจิต้องเป็นนครสวรรค์    ไข่เค็มต้องเป็นไชยา  หมี่ผัดต้องเป็นโคราช   หูฉลามต้องเป็นเยาวราช      แต่ทำไมลาบเป็ดถึงมีทั้ง อุดร  ยโสธร  อุบล   แหนมเนืองต้องเป็น แดง หนองคาย หรือ วีที อุดร  ซึ่งก็เป็นญาติกัน




         บทสรุปการตลาดยุด 1.0 คือ ต้องให้คนรู้จัก ด้วยการเข้าถึง Reach และ ด้วยความถี่Frequency ซ้ำๆที่เหมาะสมคือ พบเห็นบ่อยๆ ไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง คนจะเริ่มจำได้ และหากมี Impact ด้วย ครีเอทีฟ ก็จะทำให้คนยิ่งจำง่าย ภายในครั้งเดียวยิ่งดีใหญ่ ไม่ว่าสื่อด้วยภาพประหลาดหรือ คำพูดที่ชวนให้จำ เช่น ภาพผู้ชายตาเดียว คำพูดว่า ระวังมันกำลังจะมา สำหรับกาแฟลความอ้วนยี่ห้อหนึสูตร RFI คือสูตรทองของนักการตลาดยุคหนึ และนักโฆษณา ยุคนั้น เช่น เดวิดโอกิลวี่ หากเรานำมาใช้ในยุคปัจจุบัน คือ การเข้าถึงตลาดเป้าหมาย ต้อง 80%  ความถี่การส่งข่าวสารไม่น้อยกว่า 4  ครั้ง ใน 1 เดือนและ สร้างผลกระทบด้วย Creative  ให้คนจำได้อย่างรวดเร็ว  ยังคงเป็นไม้ตายของการสร้างแบรนด์เกิดใหม่  การตลาดไม่ใช่เป็นเรื่องของเก่าถอดทิ้ง  ใช้ของใหม่ แต่เป็นการประยุกต์ใช้ของใหม่ให้ทันเหตุการณ์ต่างหาก  Old Marketing ,Tomorrow never die     แต่หากคุณทิ้งมันไปเลยคุณนั้นและจะตายเอง

hostgator coupon