Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

Marketing 3.0 Trend 2013

แนวโน้ม การตลาดยุค 3.0 > Marketing3.0 Trend 2013

 ครั้งนี้ เราขอต้อนรับบรรยากาศปีใหม่ 2013  ด้วยการนำเสนอเทรน์  การตลาดในยุค 3.0 ของปี 2013 ว่าจะมีอะไร ฮอต ใหม่ น่าจับตาดูกันบ้าง เริ่มจาก

Trend No1 Integration online & Offline , Click and Brick   


Marketing trend 2013 จากแหล่งข้อมูล นักการตลาดหลายที่ ได้สรุป แนวโน้มหลักๆของการตลาดปี 2013 ไว้ คือ การตลาดจะมีการรวมเป็นหนึ่ง ที่เรียกว่า Integration Online& Offline   และพาณิชญ์อิเล็กทอนิกส์ที่เชื่อมโยงกับหน้าร้านณจุดขาย  Click & Brick คือ ขณะที่ลูกค้าอยู่ในร้าน สามารถเช็คสต๊อคสินค้าได้ว่ามี ของที่ตนต้องการหรือไม่ และ เมื่อตนเองเข้าไปลองเสื่อผ้าในห้องลองเสื้อผ้า RFID ทึ่ติดกับเสื้อผ้าจะส่งสัญญานไปยังวิดีโอ ในห้อง และเล่นวิดีโอ ของเสื่้อผ้าตัวนั้นให้ดู Google Wallet จะอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายผ่าน NFC Near field Technology นำไปจ่าย ตังค์ค่าสินค้าณจุดคิดเงิน ในอนาคต Universal Analytic ที่จะออกตลาดในไตรมาสแรกปีนี้ จะสามารถวิเคราะห์ลูกค้าที่เข้ามาใน เว็บเราได้ แทงตลอดจนเป็น leads ซื้อ และกลับมาซื้อซ้ำ ผ่าน Userid เดียวกัน ที่เรียกว่ารู้กันตลอด Sales pipeline funnelที่เดียวตั้งแต่ ก่อนซื้อ ขณะซื้อ จนถึงเมื่อซื้อไปแล้ว โดยการผสมผสานข้อมูลจาก Google Analytics และฐานข้อมูล CRM ของบริษัทที่ทำการตลาด จะสามารถทำ Merge & Purge เติมเต็มข้อมูลในส่วนที่ขาดไปของลูกค้าได้ เช่น เพศ อายุ ผ่านการ overlaid ข้อมูลจากสองแหล่งเข้าด้วยกัน โดยไฟล์ของเรานำออกไปอยู่ในรูป CSV น่ากลัวขึ้นทุกทีแล้วนะ การตลาดเป็นPseudo Scienceมากขึ้นทุกวัน ตามที่ Kotler ว่าเสียแล้ว 

Trend No 2   Retargeting search

Marketing Trend 2103 ตัว2 Retargeting search หากเรารู้ว่า คำหลักใดที่ดึงคนมาสู่หน้าเว็บเรา มากที่สุด หรือดึงมาสู่หน้า Landing Page ในเว็บเรามากที่สุด เช่น เรา ขายห้องโรงแรม ปีใหม่ เมื่อปีที่แล้ว พบว่า คำหลักที่คนเข้ามา ในหน้าจองห้องพัก ของโรงแรมเราปีที่แล้วคือ ห้องพักพัทยา ฉลองปีใหม่ แต่ปีนี้เราก็ต้องการลงโฆษณาอีก หาคนที่เคยมีประวัติ Searchใน Google ว่า ห้องพักพัทยาฉลองปีใหม่ เพราะคำนี้มันโดน และมีคนเข้ามาจองห้องพักเรามากสุด เราก็เจาะจงลงไปเลยว่า ให้คนที่ ค้นหาคำที่ว่านี้ หรือมีประวัติเคยค้นหาคำที่ว่านี้ ดีไหมล่ะ เพราะยังมีหลายคนที่อาจ ค้นหาคำนี้เมื่อปีที่แล้วแต่ไม่ได้คลิกมาจองห้องกันเรา ขณะที่เรายิงอีเมล์ไปหาลูกค้า ลูกค้าก็คลิกเข้าไปดูหน้าซื้อของ ของเรา แต่จะกดซื้ออยู่แล้ว ดันออกไปจากหน้าสั่งซื้อไปเฉยๆ น่าเสียดาย ปรากฎว่ามีโปรแกรมที่ตัวจับ ว่า หมอนี่หลุดออกไป แล้วก็โปรแกรมจะยิงอีเมล์ไปหา นายหมอนี่ใหม่ภายใน 24,36,48 ชั่วโมงก็สุดแล้วแต่ ซึ่งพบว่าการยิงเมล์ซ้ำ Remarketing Email จะได้ยอดกลับมาซื้อถึง26% เชียวนะจะบอกให้ การ Retargeting Remarketing เป็นหนึ่งใน Marketing Trend ปีหน้าด้วยนะ

Trend2013 No3 Dynamic Content & Price, Search Engine Result Page

 ปัจจุบัน หากเราเข้าไปใน Amazon ดูหนังสืออะไร ด้านล่างจะมีแนะนำเราว่า หากท่านชอบหนังสือนี้ มีคนแบบท่านสนใจหนังสือแบบนี้ๆๆด้วย นั้นคือให้ข้อเสนอที่ตรงประเด็นกับลูกค้า ที่เข้ามาใน เว็บ และเนื้อหาก็ผันแปรไปตามคนที่เข้ามา นอกจากนี้ ราคายังแตกต่างกันตามเวลาที่ผ่านไป รวมถึง เวลาลูกค้าค้นหา Searchคำอย่างเช่นว่า เสื้อผ้า แบรนด์ที่ขึ้นในผลการค้นหาคำหลัก Search Result อันดับจะไม่เป็นหนึ่งตลอดไปก็ได้ ขึ้นกับว่า คนที่กำลังค้นนั้น เคยเข้าเว็บเสื้อผ้าของใครบ่อยๆ กูเกิ้ลมันจะจับ Match ให้ตามพฤติกรรมในอดีตของผู้ค้น ว่าเว็บนี้นะตรงประเด็นกับหมอนี่ (ทำเป็นรู้ดีแทนเรา) และขึ้นกับเราค้นคำนี่ที่ไหน Locationหาค้นในเชียงใหม่ ผลออกมาอย่างหนึ่ง ค้นในกรุงเทพผลก็ออกมาอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่าเกิด Localized นี่เป็นผลจาก Google Place ได้เปลี่ยนมาเป็น Google+ Local ซึ่งจะตรวจจับว่าผู้ที่ Searchนั้นอยู่ที่ใด เราเป็นที่หนึ่งของคนกรุงเทพ อาจจะไม่ได้เป็นที่หนึ่งของคนเชียงใหม่ก็ได้ และกูเกิ้ล กับ Search Engine อื่นๆก็เทน้ำหนักของการจัดอันดับ ให้กับ Social Media โดยเฉพาะ Google + ดังนั้นเราจะเห็นผลการค้นหาทุกวัน นี้จะมีข้อมูลจาก Social Media เข้ามาด้วย การเล่นkeyword จึงต้องเล่น ทั้ง on page SEO และ off page SEO ที่เรียกว่า backlink (หรือ link ที่มาจากเว็บอื่นๆแล้วอ้างอิงมาเว็บของเรา ซี่งปกติจะเพิ่มการจัดอันดับให้เรา ) ทั้งจาก Social media และ เว็บพันธมิตรอื่นๆของเราทั้งในรูปแบบแลกลิงก์หรือฝากข่าว PR และยิ่งวันน้ำหนักที่ให้ ยิ่งเทมาทาง OFF PAGE SEO มากขึ้น ล่าสุดกูเกิ้ลเองออกเครื่องมือให้เราสามารถตัด backlink ที่เน่าๆออกไปได้ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า DISSAVOW บางคนถึงกับพูดว่า SEO is Dead เพราะการจัดลำดับในกูเกิ้ลต่อไปจะขึ้นกับ สถานการณ์ ประวัติการค้นหาในอดีตของผู้ค้น และ Locationจุดตำแหน่งภูมิศาสตร์ที่ค้นหาคำหลัก   อย่าลืม ตำแหน่งพิกัดที่คุณค้นบวกกับประวัติการค้นในอดีตของคุณ  จะทำให้ผลการค้นหาข้อมูล จาก คำหลักของคุณแตกต่างจากคนอื่นๆ ตัวกูเกิ้ลเองก็พยายาม Personalized ให้เขากับคนแต่ละคน  โอ้พระเจ้า มันต้องปรับตัวมากเลย จอร์ส

ไว้ต่อกันฉบับหน้าเป็นตอนจบครับ  

  

2 ความคิดเห็น:

  1. เห็นด้วยว่าการค้นหาจาก Google ต่อไป
    จะไม่ได้ขึ้นกับ keyword ที่ป้อนเข้าไปอย่างเดียว
    แต่จะขึ้นกับ ลักษณะเฉพาะตัวของผู้ค้นหา, เวลา, สถานที่
    ที่คน ๆ อยู่ก็จะมีผลในการค้นด้วย

    เป็นบทความด้าน Marketing ยุคใหม่ที่น่าสนใจมาก
    จะได้แนะนำให้นักศึกษาทวิปริญญาโท MBA MPA
    ได้ลองอ่านกันครับ :)

    ตอบลบ

hostgator coupon