Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Marketing3.0 > Lean Marketing

การตลาด3.0>Lean Marketing

Pull System

 แนวคิดในการลดความสูญเปล่าในระบบการจำหน่าย การขายและการตลาด  นั้น ทาฮิชิ โฮโน่  ได้แนวคิดมาจากการสำรวจศึกษา  ระบบงาน ซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐ ว่าเมื่อมีของขายออกไปจาก Shelf ก็จะมีคนเข้ามาเติมสินค้าที่ขายออกไป ที่เรียกว่าเติมเต็มสินค้าที่พร่องหายไป   แล้วเขาก็นำแนวคิดนี้มาปรับปรุงพัฒนา  ระบบธุรกิจที่เรียกว่า Pull Systemระบบดึง โดยหัวรถจักรอยู่ที่อุปสงค์หรือลูกค้า ยอดขาย ขายอะไรออกไปเป็นตัวชี้นำ การเติมเต็ม  สต๊อค และโยงไปถึงการผลิตรถในสายการผลิตโตโยต้า ที่เรียก JIT  Just-In-Time  และข้อมูลของสินค้าที่ขายออกไปหรือไหลออกไปคือ แรงขับเคลื่อนดึง Pull ระบบธุรกิจทั้งหมด  ทำให้สต๊อคในแต่ละขั้นตอนของธุรกิจน้อยมาก  จึงเป็นที่มาของ Lea Marketing

Lean Marketing

Lean Marketing คือการรีดไขมันออกไปจากระบบการตลาด หรือ Pipeline แนวคิดง่ายๆคือ อุปสงค์ลูกค้านั้นมันแกว่งตัวตลอดเวลา ทั้งปริมาณ คุณภาพชนิดของผลิตภัณฑ์ เวลา ดังนั้นลูกค้าต้องได้ของที่ถูกต้อง ปริมาณถูกต้องในเวลาที่ต้องการ ดังนั้นนักการตลาดจึงคิดว่าทำอย่างไรจะให้ลูกค้ามีของ เมื่อลูกค้าต้องการมัน ต้องมีของอยู่หน้าร้าน ในสต๊อคของร้านหรือณจุดขาย  ทั้งหน้าร้านเสหมือน หน้าร้านจริง   และช่องทางการจำหน่ายทุกช่องทาง Channel Management ซึ่งลูกค้าที่ซื้อผ่านแต่ละช่องทางต้องการสินค้าต่างกันในเวลาความรีบด่วนไม่เหมือนกัน แต่เมื่อของขายออกไปแต่ละช่องทางแต่ละสาขาของเรานั้น  เราจำเป็นต้องมีการเก็บตัวเลขSales อะไรขายดี ขายไม่ดีเวลาใดผ่านเครื่อง EPOS หรือเครื่องบันทึกการขาย และรายงานการขาย   โดยเจ้าเครื่องนี้มันจะอ่าน บาร์โค๊ต Barcode และดึง รหัสสินค้า เมื่อสินค้าถูกจำหน่ายออกไป แล้ว สินค้าก็จะพร่องลงไป   เราจะต้องมีการเติมต็มสินค้าเข้าไปทดแทน ของที่ขายไป เพื่อให้ของขายดีไม่ขาด และหากของขายไม่ดีต้องรีบระบายออก ไม่ควรเก็บในสต๊อคหน้าร้านหรือคลังสินค้า DC   โดยมากจะมิให้เกิน 2 รอบการขาย     หากมีมากไปของจะกองจมอยู่มาก  มูลค่าลดลงตามเวลาและสูญหายสูญเสียจนสูญสิ้นได้ การทำให้ผอมคือต้องมีของเท่าที่จำเป็นขาย ทำ Localized การขายแต่ละช่องทางและหน้าร้านในแต่ละพื้นที่ แตกต่างกันCounter Profile   บริหารจัดการการแก้ปํญหาโยกของขายไม่ดีไปยังจุดที่ขายดีแทน เพื่อลดภาระ หรือรีบระบายออกจัดรายการขายออกไป  โดยไม่ต้องขนกลับคลังสินค้า  
จากข้อมูลการขายออกSales-out จะนำไปสู่การเติมเต็มสินค้าSales-inและ การเก็บของสต๊อคหน้าร้านขาย    ก็จะมีการรวมคำสั่งซื้อไปยังต้นน้ำ   หากสินค้าขายออกเร็วเติมเต็มเร็วสต๊อคมากหน่อย ขายออกช้าเติมเต็มช้าสตีอคน้อยหน่อย  การบริหาจัดการ พื้นที่ขายSales Space  พื้นที่คลังสินค้าWarehouse Space พื้นที่ขนส่งบนรถTruck  load Area จะผันแปรตามสินค้า ที่ขายดี ขายไม่ดี สินค้าขายดีได้พื้นที่ขายมาก ขายไม่ดีได้พื้นที่ขายน้อยกว่า ตามสัดส่วน  เช่น A สินค้าขายดีมาก5 % SKUs (Store Keeping Units )กับสินค้าขายดีรวมกัน แล้วอาจจะมี ไม่เกิน 20% SKU      B สินค้าพอขายได้ มีไม่เกิน  30%    ส่วน  C สินค้าเคลื่อนไหวช้ามี 50%       

ERP Enterprise Resouce Planning  แบบ ญี่ปุ่น ระบบ Pull System

หากเป็นญี่ปุ่นจะเชื่อมโยงไปถึงการผลิตที่เรียกว่า Leveling Production และ Continuous Flow JIT Just-In-Time ลดสต๊อคระหว่างแผนกให้มากที่สุด เพื่อจะได้เห็นข้อผิดพลาดง่ายและเร็วที่สุด Visual Management นำไปสู่ Zero Defect MURA    Zero Waste  MUDA ของมีคุณค่ามากขี้นแต่ ต้นทุนกลับต่ำลง คนไม่มีภาระมากไป จาก One unit flow ทำทีละหน่วย MURI สาระที่น่าคิดจากชาวญี่ปุ่นที่เป็นลูกค้าผม และหากพวกเราได้ฟัง ดร ธีรพล พูดเรื่อง Green Ocean ไม่ว่าด้วยการลด ความหนากระดาษกรัมน้อยลง แต่คุณภาพการพิมพ์ดีกว่า ลดหมึกที่พิมพ์โดย DPI ละเอียดกว่าแต่ใช้หมึกน้อยกว่าคุณภาพการพิมพ์ดีกว่า การตัดหน้ากระดาษพิมพ์ที่ทำให้ทิ้งเศษกระดาษน้อยกว่า นี่คือการลด Wasteและก็ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและฉลาด นำไปสู่ การลด Carbon ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยลง แต่ต้นทุนถูกลงของ Print city นะจ๊ะจะบอกให้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

hostgator coupon