Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Marketing3.0 > Mobile-Marketing

Marketing3.0 > Mobile Marketing

ทำไม Mobile Marketing ถึงมา

เป็นไปตาม ที่กูรู การตลาด หลายท่านได้ พยากรณ์ไว้ว่า กระแส Mobile Marketing จะมาแรงมากขึ้นในปี 2013 โดยเหตุผลที่ว่ามีคนดู เว็บผ่านมือถือมากขึ้นเรื่อยๆ 23.14% เมื่อไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้ว และจากกราฟแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกไตรมาส ข้อมูลวิจัย Knotice นำเสนอโดย Bridgelinedigital.com

อันเนื่องจากว่า คนในหลายประเทศ รวมทั้งคนไทย มีการใช้มือถือที่สามารถเข้าอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า Smart Phone กันมาขึ้น  ดังจะเห็นจากภาพด้านล่างว่า   คนประเทศไหนใช้ มือถือ Tablet PC Search หาข้อมูล สัดส่วนเท่าไร ดูกันได้ เสียดายไม่มีของเมืองไทย แต่ดูของสิงค์โปร์ ประเทศในอาเซียนแทนก็เรากัน เขาคงทิ้งเราไม่เท่าไร พูดแบบปลอบใจตัวเอง แต่เท่าที่ดู พี่ กู Analytic ของเว็บผม นี่ มาจาก Mobile +Tablet ประมาณ 20% นะ อ้อ ภาพเป็นของ Marin Software

นักการตลาดตอบสนองด้วยการทำ Contentให้เข้ากับ Mobile

 ดังนั้น เว็บส่วนใหญ่พยายามทำให้เข้ากับการดูผ่านมือถือโดยที่นักการตลาดใช้ สำหรับ Optimization เว็บ คือ ให้สามารถใช้ Social Media และ ดูเมนู และรายการสินค้า ออน์ไลน์ผ่านมือถือ รวมถึง ดูวิดีโอผ่านมือถือ และการจ่ายเงินผ่านมือถือ รวมถึงการทำ Location based Service เชื่อมโยงกับ สถานที่หน้าร้าน และจุดให้บริการดังภาพ


 สถานที่ใช้มือถือเป็นตัวเชื่อมโยง Marketing Content สู่การขาย

โดยคนใช้มือถือ นอกบ้านนั้น เป็นจุดที่น่าทำตลาด ณ จุดขาย เช่น ขณะช้อปปิ้ง ในห้างร้าน ขณะทานอาหาร เพราะเราสามารถใช้ Location-based Marketing ว่าลูกค้าใกล้ร้านเรา หรือ จุดขายสินค้าเรา เขาจะได้รับการสื่อสารการให้ Electronic Coupon QR code ณจุด ขาย หรือ Check-in เพื่อรับสิทธิพิเศษ และจากงานวิจัยก็พบว่า ลูกค้า ใช้มือถือนอกบ้านนั้น ในห้างร้าน 75% ในร้านอาหาร 65% ช่างเข้าทางเสียนี่กะไร ดังนั้นบอกได้เลยว่า ปีนี้ Mobile Marketing อย่างไรก็มาแน่นอน ส่วนที่บ้านลูกค้ามักใช้ในห้องพักผ่อน ทีมักมีทีวีอยู่ด้วย อันนี้เห็นว่า หนึ่งทีวีจะถูกแย่งความสนใจไป สองอย่างก็นั้นเลย รายการทีวีก็จะฝันตัวเองให้เป็นSocial TV เสียเลย ให้มีการโต้ตอบ สื่อโซเชียลมีเดียกับรายการทีวีเสียเลยให้รู้แล้วรู้รอดไป ก็คล้ายๆกับทีวีมี SMS ขึ้นด้านล่าง ในปัจจุบัน ข้อมูลวิจัยจาก eMarketer

นำไปสู่การขาย ณ จุดขายได้ดี ตอบตรงใจลูกค้า

คนสหรัฐ ใช้คูปองแจกผ่านมือถือ 16% ของคนมีมือถือ ประเทศไทยมีสัดส่วนถือครองมือถือ เกิน 100% Penetration rate นั้นคือคนไทยหนึงคนมีหลายเครื่อง และเจ้าของมือถือประเภท Smart Phone นั้นชอบ คูปองโปรโมชั่นเป็นพิเศษ พบว่า 1ใน 3จะใช้คูปองในการซื้อของ(32%-2013) ไม่ว่าเป็นส่วนลดพิเศษ ซื้อแล้วได้ของแถม โดยเจ้าของ มือถือได้รับผ่าน SMS Mobile Apps check-in QRcode Groupon นับว่า Mobile Marketing จะมาแรงทีเดียวในปี 2013 นี้้ดังภาพ จาก eMarketer
   ดังนั้น การประยุกต์ใช้ Mobile  Marketing ณจุดขาย หรือ Event งานต่างๆ ผ่าน เทคโนโลยี่ AR  RFID   QR code   NFC  0จะเป็นตัวเปิดเกมส์การตลาดใหม่ ที่เชื่อมโยงโลกเสมือน กับโลกการขายหน้าร้านจริง สถานที่จริง  เห็นของจริงๆ  รู้ข่าวสาร และโปรโมชั่น ออน์ไลน์   Realtime ทันควัน เร่งเร้าให้ตัดสินใจได้ในทันที เป็นการ Bridging The Gap Between Marketing and Sales ครับ 
 

Marketing3.0 > Lean Marketing

การตลาด3.0>Lean Marketing

Pull System

 แนวคิดในการลดความสูญเปล่าในระบบการจำหน่าย การขายและการตลาด  นั้น ทาฮิชิ โฮโน่  ได้แนวคิดมาจากการสำรวจศึกษา  ระบบงาน ซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐ ว่าเมื่อมีของขายออกไปจาก Shelf ก็จะมีคนเข้ามาเติมสินค้าที่ขายออกไป ที่เรียกว่าเติมเต็มสินค้าที่พร่องหายไป   แล้วเขาก็นำแนวคิดนี้มาปรับปรุงพัฒนา  ระบบธุรกิจที่เรียกว่า Pull Systemระบบดึง โดยหัวรถจักรอยู่ที่อุปสงค์หรือลูกค้า ยอดขาย ขายอะไรออกไปเป็นตัวชี้นำ การเติมเต็ม  สต๊อค และโยงไปถึงการผลิตรถในสายการผลิตโตโยต้า ที่เรียก JIT  Just-In-Time  และข้อมูลของสินค้าที่ขายออกไปหรือไหลออกไปคือ แรงขับเคลื่อนดึง Pull ระบบธุรกิจทั้งหมด  ทำให้สต๊อคในแต่ละขั้นตอนของธุรกิจน้อยมาก  จึงเป็นที่มาของ Lea Marketing

Lean Marketing

Lean Marketing คือการรีดไขมันออกไปจากระบบการตลาด หรือ Pipeline แนวคิดง่ายๆคือ อุปสงค์ลูกค้านั้นมันแกว่งตัวตลอดเวลา ทั้งปริมาณ คุณภาพชนิดของผลิตภัณฑ์ เวลา ดังนั้นลูกค้าต้องได้ของที่ถูกต้อง ปริมาณถูกต้องในเวลาที่ต้องการ ดังนั้นนักการตลาดจึงคิดว่าทำอย่างไรจะให้ลูกค้ามีของ เมื่อลูกค้าต้องการมัน ต้องมีของอยู่หน้าร้าน ในสต๊อคของร้านหรือณจุดขาย  ทั้งหน้าร้านเสหมือน หน้าร้านจริง   และช่องทางการจำหน่ายทุกช่องทาง Channel Management ซึ่งลูกค้าที่ซื้อผ่านแต่ละช่องทางต้องการสินค้าต่างกันในเวลาความรีบด่วนไม่เหมือนกัน แต่เมื่อของขายออกไปแต่ละช่องทางแต่ละสาขาของเรานั้น  เราจำเป็นต้องมีการเก็บตัวเลขSales อะไรขายดี ขายไม่ดีเวลาใดผ่านเครื่อง EPOS หรือเครื่องบันทึกการขาย และรายงานการขาย   โดยเจ้าเครื่องนี้มันจะอ่าน บาร์โค๊ต Barcode และดึง รหัสสินค้า เมื่อสินค้าถูกจำหน่ายออกไป แล้ว สินค้าก็จะพร่องลงไป   เราจะต้องมีการเติมต็มสินค้าเข้าไปทดแทน ของที่ขายไป เพื่อให้ของขายดีไม่ขาด และหากของขายไม่ดีต้องรีบระบายออก ไม่ควรเก็บในสต๊อคหน้าร้านหรือคลังสินค้า DC   โดยมากจะมิให้เกิน 2 รอบการขาย     หากมีมากไปของจะกองจมอยู่มาก  มูลค่าลดลงตามเวลาและสูญหายสูญเสียจนสูญสิ้นได้ การทำให้ผอมคือต้องมีของเท่าที่จำเป็นขาย ทำ Localized การขายแต่ละช่องทางและหน้าร้านในแต่ละพื้นที่ แตกต่างกันCounter Profile   บริหารจัดการการแก้ปํญหาโยกของขายไม่ดีไปยังจุดที่ขายดีแทน เพื่อลดภาระ หรือรีบระบายออกจัดรายการขายออกไป  โดยไม่ต้องขนกลับคลังสินค้า  
จากข้อมูลการขายออกSales-out จะนำไปสู่การเติมเต็มสินค้าSales-inและ การเก็บของสต๊อคหน้าร้านขาย    ก็จะมีการรวมคำสั่งซื้อไปยังต้นน้ำ   หากสินค้าขายออกเร็วเติมเต็มเร็วสต๊อคมากหน่อย ขายออกช้าเติมเต็มช้าสตีอคน้อยหน่อย  การบริหาจัดการ พื้นที่ขายSales Space  พื้นที่คลังสินค้าWarehouse Space พื้นที่ขนส่งบนรถTruck  load Area จะผันแปรตามสินค้า ที่ขายดี ขายไม่ดี สินค้าขายดีได้พื้นที่ขายมาก ขายไม่ดีได้พื้นที่ขายน้อยกว่า ตามสัดส่วน  เช่น A สินค้าขายดีมาก5 % SKUs (Store Keeping Units )กับสินค้าขายดีรวมกัน แล้วอาจจะมี ไม่เกิน 20% SKU      B สินค้าพอขายได้ มีไม่เกิน  30%    ส่วน  C สินค้าเคลื่อนไหวช้ามี 50%       

ERP Enterprise Resouce Planning  แบบ ญี่ปุ่น ระบบ Pull System

หากเป็นญี่ปุ่นจะเชื่อมโยงไปถึงการผลิตที่เรียกว่า Leveling Production และ Continuous Flow JIT Just-In-Time ลดสต๊อคระหว่างแผนกให้มากที่สุด เพื่อจะได้เห็นข้อผิดพลาดง่ายและเร็วที่สุด Visual Management นำไปสู่ Zero Defect MURA    Zero Waste  MUDA ของมีคุณค่ามากขี้นแต่ ต้นทุนกลับต่ำลง คนไม่มีภาระมากไป จาก One unit flow ทำทีละหน่วย MURI สาระที่น่าคิดจากชาวญี่ปุ่นที่เป็นลูกค้าผม และหากพวกเราได้ฟัง ดร ธีรพล พูดเรื่อง Green Ocean ไม่ว่าด้วยการลด ความหนากระดาษกรัมน้อยลง แต่คุณภาพการพิมพ์ดีกว่า ลดหมึกที่พิมพ์โดย DPI ละเอียดกว่าแต่ใช้หมึกน้อยกว่าคุณภาพการพิมพ์ดีกว่า การตัดหน้ากระดาษพิมพ์ที่ทำให้ทิ้งเศษกระดาษน้อยกว่า นี่คือการลด Wasteและก็ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและฉลาด นำไปสู่ การลด Carbon ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยลง แต่ต้นทุนถูกลงของ Print city นะจ๊ะจะบอกให้
hostgator coupon