การตลาด3.0 > ROI Marketing การตลาด เพื่อบีบคั้น ความคุ้มค่าจากเม็ดเงินด้านการตลาด
การตลาดคือการลงทุนมิใช่ รายจ่าย
ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันนั้น ธุรกิจต่างต้องการความคุ้มค่าในการใช้เม็ดเงินด้านการตลาด สิ่งที่เจ้านายมักถามบ่อยๆคือ การตลาดคือการลงทุน ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่ เองวัดผลให้ข้าอย่างไรว่ะ ว่าข้าลงทุนแล้วคุ้ม เมื่อพูดว่าการตลาดคือ ค่าใช้จ่ายนั้น หมายถึง ลงไปแล้วต้องได้ยอดขาย แล้วเทียบกับรายจ่ายด้านการตลาด แต่ การตลาด คือการลงทุนหมายถึง ลงทุนไปแล้วได้สินทรัพย์กับธุรกิจ และสินทรัพย์ที่ว่านั้นคือ ลูกค้า ที่เรียก Customer Asset
แล้วจะวัดผลตอบแทนการลงทุนอย่างไร
นักการตลาด พูดกันถึง
#ROI #Marketing มากมายหมายถึง การตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูง คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป มันคืออะไร มันคือ การคำนวณว่า เราได้ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ธุรกิจประเภท ลูกค้าที่เราหามาได้ และ ผูกใจ ผูกติด จนลูกค้าไม่ไปหาคู่แข่งเรา กลับมาหาเรา ใช้จ่ายและซื้อเราที่เรียกเกิดมูลค่าตลอดชีพลูกค้า LTV Lifetime Value of customer ตลอดอายุที่ลูกค้าอยู่กับเรา เช่นมาทานข้าวร้านอาหารเราตลอดจนลูกหลานโดขึ้นก็ยังมาทานที่ร้านเรา มาซื้อสินค้าจากเรา ตลอด 10ปีที่ผ่านมา และชวนเพื่อนญาติมาซื้อกับเรา ตัวอย่างหากแม่ คนหนึ่งใช้ Pamper กับทารกหนึ่งคน 2 ปี โดยใช้ปีละ 30 packs รวม 60 Packs และแม่หนึ่งคนมีลูกเฉลี่ย 2 คน LTV เท่ากับ 120 Packs(60Packx2 คน) แน่นอนทุกอย่างไม่ได้มาฟรี เราต้องลงทุนลงแรงผูกใจลูกค้า ผ่าน 3 ทางคือ ต้นทุนในการ หาลูกค้าเข้ามา ครั้งแรก Cost of acquisition ต้นทุนในการ จูงใจลูกค้าให้ซื้อต่อเนื่อง Cost of Campaign ซึ่งเราต้อง มีกิจกรรมการตลาดออกไปตลอดเวลา เช่นทุกๆเดือนมีกิจกรรมกระตุ้นลูกค้าให้มาซื้อ ไม่ว่าเป็นสินค้าใหม่ Promotion และสุดท้ายคือต้นทุนในการ สร้างความสัมพันธ์ Cost of Relationship เช่นเชิญไป ดูหนัง ฟรี ฟังคอนเสริต์ฟรี อบรมฟรี แถม Ebook Webinar เข้าร่วมประกวดแข่งขัน รับรางวัล การคำนวณ ROI หรือผลตอบแทนการลงทุนด้านการตลาดคือ เอามูลค่าหัวตลอดชีพที่ลูกค้าจะซื้อเรา ลบออกด้วยต้นทุนทั้งหมด หารด้วย ต้นทุนทั้งหมดที่ลงทุนไป ตามภาพข้างบนครับ
very informative article internet marketing guru
ตอบลบ