Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Marketing4.0 > Micro Segmentation

 การตลาด 4.0  >  Micro Segmentation

เมื่อมีการทำตลาด เรายอมรับข้อจำกัดที่ว่าทรัพยากร งบประมาณที่ใช้ในการทำตลาดนั้นมีไม่มาก ดังนั้นเราจำเป็นต้องแบ่งตลาดออกเป็นส่วนๆและเลือกกินเฉพาะส่วน Segment ที่เป็นชิ้นปลามัน และเรามีโอกาสมากที่สุด ดังตาราง จาก eMarketer 

ใช้เกณฑ์อะไรมาแบ่งตลาดเป็นส่วนๆ Segment

นักการตลาด  เราใช้เกณฑ์อะไร กันแบ่ง Online Market Segmentation พบว่า 
  • เบอร์หนึ่งคือทางจิตวิทยา และไลฟ์สไตล์และความสนใจของลูกค้า
  • สองคือ ทางประชากรศาสตร์เพศ รายได้ การศึกษา 
  • สามคือพฤติกรรมการซื้อ เช่นซื้อยี่ห้ออะไร บ่อยแค่ไหน มูลค่าเท่าไร 
  • สีคือ Social dataข้อมูลทางสังคมโดยเฉพาะออน์ไลน์กลุ่มไหนสื่อSocial Media อะไร และ
  • สุดท้ายคือ Search Data ว่าลูกค้าค้นหาคำอะไร มีคำถามอะไร ใช้ Keywords อะไรค้นหา Query
ผมดูแล้ว ว่าเอเชียจะนำหน้า อเมริกาและยุโรป บริษัทเล็กนำหน้าบริษัทใหญ่ ซึ่งยังต้องการอะไรเก่าๆอยู่ เพราะผู้บริหารอาจจะต้องการให้ลูกน้องคุยภาษาเดียวกัน ลูกน้องก็อยากขายงานได้งบ ก็เลยต้องใช้ Segmentation แบบเดิมๆตามใจผู้ตัดสินใจระดับสูงไป อย่า Advance น่ะเด้วกูตามไม่ทัน อะไรประมาณนั้นครับ โถ๋นี่มันเรื่องออน์ไลน์น่ะครับ



Micro-Targeting

การเจาะลูกค้านั้นทำได้ เป็น มิติ 5 ชั้นเช่นกัน โดยเริ่มจากวงในหรือวงแคบสุด  ผมจะพูดลงลึกและ Advanced หน่อยน่ะครับ ค่อยๆตามผมมาทีละขั้น ที่ละตอนครับ (ภาพจากWordstream & Facebook)
  1. เราต้องมีฐานข้อมูลลูกค้าเราเอง  ไม่ว่าเป็น อีเมล์  เบอร์มือถือ FB ID หรือ เป็น Fanpage ของเราอยู่ ซึ่งหากเรามีฐานนี้อยู่  และต้องการให้เขาถึงกลุ่มนี้ เราสามารถเจาะจงในการกำหนด ลูกค้าเป้าหมายใน Customer List ใน Customer Audience ของ Facebook ได้ (รูปด้านขวา ช่องบนสุด)
  2. Remarketing  หรือ  Retargeting  เกิดมาเพื่ออุดจุดบอด ที่ลูกค้าเข้ามาในเว็บเราแล้ว ดันหลุดออกไปดื้อ แทนที่จะมี Action เช่นซื้อ คลิก กรอกข้อมูล   ดั้งนั้น เราสามารถสร้างฐานลูกค้านี้ โดยการฝัง โค้ต Remarketing Code  หรือ  Custom Audience Pixel  หรือ  Retargeting Pixel ซี่งเราต้องระบุหน้าที่อยากให้  Adwords  จับหรือ FB  จับคนที่เข้ามาในเว็บเราหน้านั้นๆเฉพาะ  หรือ  มาดูหน้าใดๆก็ได้ในเว็บเรา  แล้วโฆษณาก็จะตามเขาและเธอไป ทุกครั้งที่เขาและเธอ เข้ามาใน หน้า Search หรือ   Facebook  ใน Web traffic ของ Custom Audience 
  3. เรากำหนดกลุ่มเป้าหมายตาม ไลฟ์สไตล์หรือความสนใจของลูกค้าเช่น ชอบเรื่อง BMW   Beauty  ตีกอลฟ์  การชอบหน้า เพจเรื่องราวต่างๆ เช่น  เรื่องรถ  เรื่องสุนัข  เรื่องวิชาการ  เรื่องความงาม จาก 1-3  เราสามารถ นำฐานลูกค้าที่สร้างไว้นี้ใน Custom Audience หรือ นำข้อมูลเข้าโดยตรงเช่นเรามีฐานข้อมูลลูกค้า มีอีเมล์  มือถือ  หรือ  กลุ่มแฟนเพจเรา เราสามารถหา กลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีลักษณะความเหมือนกับ ฐานลูกค้าเราในสาระบบ คนเล่นFacebookทั้งหมด  เรียกว่า Look Alike โดยเรากำหนดประเทศไทยลงไปด้วยในบรรทัดที่สอง   แล้วFaceboook ก็จะนำโฆษณาของเราไปหาลูกค้าใหม่ที่มีลักษณะคล้ายๆหรือเหมือนกันกับลูกค้าเรา
  4. เรากำหนดหาลูกค้าจาก คำหลักที่เขาค้น  เช่น  เขาอาจค้นคำว่า  ร้อยไหม    ยกหน้าเรียว   ทำหน้า V Shape   ทำหน้าเกาหลี   ลดกราม    ยกกระชับ   ลบริ้วรอย   โบท๊อกซ์   ฟิลเลอร์   ทั้งหมดนี้คือกลุ่ม ใช้บริการคลินิกความงามเหมือนกัน แต่การค้น คำหลักเวลาหาข้อมูลต่างกัน  ก็จะมีความต้องการ ลึกๆที่ต่างกัน ซึ่งแน่นอนข้อมูลที่เรามีในเว็บก็จะต้องต่างกัน
  5. Web Targeting เป็นการนำ Content  เราในหน้าเว็บเราไปเชื่อมต่อกับ เนื้อหาในเว็บอื่น  แต่ให้เว็บอื่นเชื่อมลิงค์กลับมา Backlink โดยเนื้อหาจะต้องสอดคล้องกัน  เชื่อมโยงกัน มี  Sematic Keywords กลุ่มเดียวกัน 

    ข้อ 1-3  เรามักจะเรียก People Based Marketing  ส่วน 4-5  เรามักจะเรียก Search Marketing ซึ่งมักใช้เครื่องมือ  SEO SEM  GDN  Backlink  โดยเป็น  Keyword Based Marketing 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

hostgator coupon