Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558

Marketing4.0 > Marketing Trend 2015 Session 3

Marketing 4.0 > Marketing Trend 2015 Session 3


Omni Channel

จากยุค Multi Channel คือใช้เข้าไปหลายๆเครื่องมือ ใช้เครื่องมือใหม่ๆ ใช้จนมึนเป็นหาทางรวมเครื่องทางการตลาดทุกตัวให้เชื่อมโยงกัน และเป็นหนึ่งเดียว  Omni Channel  หรือยุค รวม  ทุกช่องทาง การสื่อสาร การขาย และ การบริการเป็นหนึ่งเดียว ซึ่ง GMA ซี่งเป็นสมาคมผู้ผลิต อาหารเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภค ได้สรุปช่องทางต่างๆกับ Brand Objective ตาม Customer Journey 3 ขั้นตอนใหญ่คือ ลูกค้าการรู้จัก การลองหรือตัดสินใจซื้อ และ ภักดีกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ และสถานที่ คือที่ บ้าน ขณะเดินทาง และ ร้านหรือห้างฯ ส่วนในตารางคือ เครื่องมือสื่อต่างๆนั้น แบ่งเป็นกลุ่มๆคือ สื่อช่วยค้นหา Search สื่อให้ Deal เช่นแจกคูปอง Social Media Relationship Marketing Thematic content Relationship Marketing Apps สีเขียวคือที่ระบุว่า ใช้ในการบรรลุเป้าหมายหลัก ด้านบน และ สีส้มคือใช้บรรลุเป็นเป้าหมายรองๆ เช่นเมื่อลูกค้าอยู่ที่บ้าน(แถวแรกในตาราง at home)เครื่องมือ Search ใช้เป็นเครื่องมือหลักในการสร้างการรู้จักและพิจารณาเลือก สินค้าเรา Dealพิเศษใช้กระตุ้นลูกค้าให้ทดลองและตัดสินใจซื้อเช่นตัวอย่างแจกฟรี คูปอง ส่วนสื่อ Social ใช้เป็นหลักในการสร้างความภักดีและแฟนพันธุ์แท้ และใช้เป็นตัวเสริมในการสร้าง Awareness แต่เมื่อลูกค้าอยู่ณ หน้าร้าน สื่อหลักที่ทำให้ ทดลองหรือซื้อคือ คือDeals, POP POS In-store Ad Display เช่นมีขวดตัวอย่างให้ดม ทา หรือทั้งดมและทา


41 Marketing tools

อันนี้ บรรเจิดใหญ่ ตารางนี้ สมาคม Grocery Manufacturers Association เผย เครื่องมือการสื่อสารทั้ง 41 ตัวแบ่งเป็นกลุ่มๆ ภายในแต่ละ Platform ที่เป็นเครื่องมือการตลาดใหญ่ เช่น เครื่องมือ Search มี Sponsored Result ผู้สนับสนุน แบบข้างขวา Facbook หรือ Youtube , Product Reviews ซึ่งคนเขียนมักเป็นผู้ชำนาญการ หรือผู้ทดลองหรือ Blogger,Virtual Display อย่าง 360 Views ของ Google หรือ Mobile Search ค้นหาผ่านมือถือ หรือ Product Availability ซึ่งจะบ่งบอกว่ามีสินค้าใน Shop นี้กี่ตัวกี่รุ่น รสชาติใด ในตารางสีเขียวคือ นายแน่มาก ส่วนสีเหลืองคือ พอใช้ได้ ส่วนสีแดงคือ ประสิทธิผลต่ำ เช่น Augmented Reality แถบแดงยังเป็นเครื่องมือที่ห่วยอยู่สำหรับ การนำเสนอเนื้อหาธีมTheme Content ส่วน Direct Mail เป็นเครื่องมือที่ห่วยในการสร้างความสัมพันธ์ และในกรอบ ปะๆด้านขวา บ่งถึงมีนักการตลาดพึ่งเริ่มๆมีการใช้มาไม่นานนี้เอง ส่วนด้านซ้ายสุดเป็นเครื่องมือตลาดที่นักการตลาดคุ้นเคยและใช้มาเยอะแล้วหรือคุ้นเคยแล้ว เช่น POP POS ตัวอย่างทดลอง หรือมีการแจกตัวอย่าง บู้ทชงชิมณจุดขาย Digital Kisok /Interactive Display ที่เป็นหน้าจอสัมผัสให้เรากดเล่นหาข้อมูลในร้าน หรือผลิตภัณฑ์ PromoDeals มี FSIs Free Stand Insert ใบแทรกในหนังสือพิมพ์พวกBigC Lotusชอบทำครับ แจกคูปองหน้าร้าน พวก KFC Chester นิยมมาก แจกคูปองตอนเช็คเอาวน์ผมว่าบ้านเราทำน้อยไปหน่อยแจกให้กลับมาแวะซ์้ออีก Monile/Location Based Deal ลูกค้าอยู่ในพื้นที่ เช่นเช็คอินที่ร้านได้ส้มตำฟรี ที่นิตยาไก่ย่าง หรือเปิดมือถือปุ๋บได้รับข่าวสารเข้ามือถือปั้บทันทีว่ามีโปรโมอะไรที่ร้านนี้ ผมว่าสมาคมนี้เขาทำได้ดีและสร้างสรรมากเลยครับ

Marketing 4.0 > Marketing Trend2015 > Session 2

Marketing 4.0 >Marketing Trend2105 ตอนที่ 2

เมื่อตอนที่แล้วเราได้พูดถึงแนวโน้ม 4 ตัวแรก  New Marketing Integration ,การขับเคลื่อนลูกค้า ตาม Customer Journey ไปพร้อมๆกับ Sales Pipeline,Tell Don't Sell Content & Context Marketing,New Marketing Optimization SEO to CEO   ในฉบับนี้เราจะว่ากันถึง เทรนด์ที่เหลือกันอีก 3 มิติ  


Trend 2015 No 5

Content Marketing ลูกค้ามีความไว้ใจมากขึ้น จากขั้นตอนแรกๆใน Customer Journey ก็จะค่อยๆยอมให้ข้อมูลเชิงลึกของตนมากขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนกับ ข่าวสาร Offer คำปรึกษาแนะนำ Service , Free Trial , Promotion และเคลื่อนไปสู่ปลายทาง ของการตัดสินใจซื้อมากขึ้น ซึ่งนักการตลาดต้องรู้จักสื่อสาร ในขั้นตอนแรกๆ จะสื่อสารด้วย คุณค่า สอบถาม ประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ หรือ การให้ความรู้ การทำเพื่อสังคม เช่น ฮอนด้าขับขี่ปลอดภัย หรือ โตโยต้าถนนสีขาว เมื่อลูกค้าเคลื่อนสู่การตัดสินใจมากขึ้น ค่อยสื่อสารเรื่อง ผลิตภัณฑ์และ Feature และณจุดใกล้ซื้อ ค่อยสื่อสารเรื่องโปรโมชั่น นักการตลาดที่สื่อสารแต่จุดเด่นสินค้าตัวเองก่อนเลยจะพบกับความประหลาดใจในความล้าหลังของตนเอง ด้วยเหตุฉะนี้ ทีมการตลาดต้องมีทั้ง ค้นคว้า วิจัย เขียนบทความ นักข่าว IT มีหัวใจให้บริการ ทักษะการขาย และ CRM

Trend 2015 No.6

Big Data & MarketingAutomation ทุกช่องทางเราจะได้ข้อมูลลูกค้ามหาศาล และต้องหาทางใช้ข้อมูลลูกค้านี้ในการทำ บริการเฉพาะตัว ทุกจุดสัมผัสติดต่อกับลูกค้าเพื่อให้มันใจว่า ประสบการณ์ลูกค้า OK ในทุกๆ ชั้นของ Customer Journey ซี่งจำเป็นต้องใช้ Marketing Automation Softwareช่วยตรวจจับและบริหารจุดสัมผัสติดต่อกับลูกค้าทุกจุด ทุกช่องทาง    ดังนั้นปีนี้จะเป็นปีแห่งการ ซื้อ ซอฟแวร์ทางการตลาด เพื่อทำการตลาดแบบอัตโนมัติ   ทั้งเก็บข้อมูลตั้งโปรแกรม ติดต่อ ติดตามลูกค้าซึ่ง เครื่องมือ Marketing Automation  จะเป็นตัวรวมศูนย์  ทุกอย่าง ทั้ง  Inbound และ Outbound Marketing

Trend 2015  No.7 

ROI Marketing2015  หรือการตลาดต้องให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ลงไป     ตัวชี้วัดทางการตลาดKPI จะเปลี่ยนจาก คุณต้องการยอดขายกี่ชิ้น ย้อนกลับเป็นคุณต้องหาลูกค้าให้ได้กี่คน ย้อนกลับขึ้นมาเป็น  Sales> Walk >Engaagement>Visit >Views >Impression>Reach และตอบโจทย์ธุรกิจมากขึ้น  จากยอดขายที่ต้องการ ย้อนมาเป็นจำนวนคนเข้าร้าน หรือ มาแวะเยี่ยมชมหน้าร้าน โครงการ  มาสู่การเข้าร่วมกิจกรรม   มาสู่การมาแวะเวียนหน้าเว็บ หรือ สื่อสังคมออน์ไลน์  มาสู่การเข้ามาดูเว็บ มาสู่การได้เห็นโฆษณา และมาสู่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกี่ล้านคน  เป็นการย้อนกลับว่า จะต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ กี่ล้านคน เพื่อให้ได้ยอดขายตามต้องการ 

Marketing4.0 >Marketing Trend2015

Marketing4.0  >  Marketing trend 2015





ชึ้นศักราชปีใหม่ 2015 ขอพูดถึงเรื่อง แนวโน้มการ ตลาด ปี 2015 ว่าจะมีทิศทางใด และมีเครื่องมือใหม่ๆอะไรบ้าง พบว่า มี 7มิติ ที่สำคัญ ในช่วงต่อติดกับ การตลาดยุค 3.0 กำลังก้าวเข้าสู่การตลาดยุค ที่ 4.0 7 Most Important Marketing Trend 2015 Transformer4.0 จากประสบการณ์และการค้นคว้า พูดคุยกับนักการตลาดทั้งในประเทศและภูมิภาค ผมได้สรุปแนวโน้มตลาด ปี 2015 มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของธุรกิจคือ ฝ่าย IT และ ฝ่าย Marketing & Sales Service CRM จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ในนาม Commercial Department แปลเป็นไทย ว่าทัพหน้า Frontier และ การปรับกลยุทธ์การตลาดหลัก 7 มิติ คือ

Trend No1 

New IMC  2015 -Integrate ทุก Channels ให้เป็นหนึ่ง ไม่ว่าช่องทางสื่อสาร ช่องทางตลาด ช่องทางขาย ช่องทางบริการ เรียก Omni Channels   ทั้ง Online กับ Offline Marketing      Inbound Outbound Marketing     Free & Paid Search  Marketing ที่เรารู้จักกันในนาม SEO Search Engine Optimisation vs SEM  Search Engine Marketing      Location Based Marketing ,Mobile& Wearable ,Video & Streaming   หัวใจในปีนี้คือ เอาเครื่องมือแต่ละตัวมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและ ธุรกิจ

TrendNo. 2

ติตตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด ผ่าน Customer Journey โดยเปลี่ยนจากกิจกรรมดูแล ขั้นตอนการขาย Sales Pipel คล้ำเป้า Target Prospect >Views/Visit>Lead > Walk>Customer >Advocates กระบวนการนี้เริ่มจาก กลุ่มเป้าหมายในแผนตลาดมาเป็นเห็นโฆษณาหรือ เยี่ยมชมเว็บ กรอกข้อมูลลูกค้ากลายมาเป็น Lead ถูกจูงเดินเข้าร้านจนกลายมาเป็นลูกค้าและแฟนพันธุ์แท้ ฝ่าย Commercial จะต้องติดตามดูแล กิจกรรมลูกค้าตามCustomer Journey คือเริ่มจาก มีความต้องการ> ค้นหา >เปรียบเทียบ >ตัดสินใจ> ซื้อ > นำไปใช้ วิพากษ์ วิจารณ์ แชร์ > ภักดี เขียนขั้นตอนได้ดังนี้ Need>Awareness>Search>Compare>Decide>Purchase>Usage & Review >Loyal โดยลูกค้าจะค้นหาในระบบการค้นหาข่าวสาร หรือเนื้อหาที่ต้องการจะค้นหา ไม่เฉพาะการค้นด้วยตัวอักษร Keywords จะมีการเปลี่ยนแปลงจากค้นด้วยตัวหนังสือ เป็นค้นด้วยเสียง และ ค้นด้วยภาพ Text >Voice >Visual Search โดยนักการตลาดต้องรู้ว่าลูกค้าแต่ละคนเคลื่อนไปถึงวงจรไหนใน Customer Journey และสื่อสารตรงประเด็นกับเขาในแต่ละขั้นตอน โดยขั้นตอนต้นๆของ Journey จะไม่เน้นขายๆๆๆ Feature ผลิตภัณฑ์แต่จะ ให้ลูกค้าได้รับข่าวสาร ความรู้เห็นประโยชน์ เกิดความต้องการ Category Need เมื่อลูกค้าเข้าใกล้การตัดสินใจ Nearly Decisionเราค่อยสื่อสารเรื่อง Feature เปรียบเทียบ และ มีข้อมูลกระตุ้นให้ลูกค้ารีบตัดสินใจเช่น คุ้มค่า มีจำนวนจำกัด ถึงก่อนมีสิทธิก่อน เท่ห์ก่อนใคร การปรับข่าวสารตามลูกค้าและความพร้อมในการซื้อของลูกค้ามีความสำคัญต่อการตลาดยุค 3.0 และ กำลังก้าวสู่ยุค 4.0 Transformer 4.0 อย่างยิ่ง

Trend No.3

New Branding 2015 Content is King ,Context Is Queen ตลอดการเดินทางของลูกค้าจากต้องการ ไปยังจุดตัดสินใจซื้อ นักการตลาดต้อง มั่นใจว่าสามารถสร้าง ประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าCustome Experience ทุกขั้นตอนจากต้องการ>ค้นหา>ตัดสินใจ>ซื้อ และให้ข่าวสารตรงประเด็นตามที่ลูกค้าต้องการในแต่ขั้นตอนของ Customer Journey ที่เรียก Relevant Content Marketing (ต้องพูดแบบมีแผนเป็นขั้นๆ ไม่ใช่นึกจะพูดอะไรก็พูด Editorial Calendar ) และสร้างสรรทำให้ลูกค้าตื่นตาตื่นใจ Creative Context Marketing เพื่อสร้าง Customer Experience ที่ดี และเกิดความวางใจ Trust ในแบรนด์ แรกๆลูกค้าคงอยากเกิดความต้องการก่อน แล้วถึงพิจารณาค้นหาข้อมูล แล้วก็เปรียบเที่ยบระหว่างของที่จะซื้อ ซื้อ ใช้ ใช้แล้วแชร์ ผูกพันธ์ แต่ละขั้นตอนต้องใช้ Message แต่ละ ธีม Theme ไม่เหมือนกันเลย และลูกค้าจะยิงค้นหามากขึ้นเมื่อเขามีความต้องการ และจะยอมแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเรามากขึ้น อย่างธุรกิจผมลูกค้าไหนยอมเปิดเผยให้ข้อมูลธุรกิจตนเอง บอกปัญหาตนเองชัดๆ แสดงว่าเขามีความต้องการสูงมาก ผมจะจัดลำดับเป็นลูกค้าคาดหวังอันดับต้นๆ และจะไปพบด้วยตนเองไม่ให้ลูกน้องไปแทน เช่นเดียวกับลูกค้าที่เข้ามาในระบบหากยิ่งยอมให้ข้อมูลมากๆ มีความต้องการชัดจะยิ่งเข้าไปค้นหาข้อมูลเว็บ ในลำดับลึกๆ Layer 3-5 หน้าลึกๆในๆ ก็ยังเขาไปค้น ลูกค้าที่มาแวะหลายๆหน้า ดูContent หน้าลึกๆแสดงว่ากลุ่มนี้แหละ เราสามารถกำหนด Scoring Vsitor ที่เข้ามาชมเว็บเราได้ ให้คะแนนLeads กลุ่มนี้สูงๆ ให้ข้อมูลเชิงลึกๆกับเขาได้ แต่เมื่อลูกค้ายังไม่มีความต้องการ ยังไม่รู้จักแบรนด์เราเลย ก็เพียง Educate ตลาดเบื้องต้น สร้างให้เกิด Category Need ความต้องการกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์เสียก่อน เปลี่ยน content ให้เหมาะกับความพร้อมการซื้อของลูกค้า และ เปลี่ยน context สร้างสรร ให้ตรงประเด็น กับเครื่องมือ ช่องทาง ที่ลูกค้าใช้อยู่ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอให้รับกับ Responsive กับ มือถือ Tablet Desktop การโหลดรวดเร็ว ล่าสุดผมใช้ความพยายามถึง 3 ครั้งจะสั่งซื้อ Norton แต่ระบบก็ยังเล่นตัวไม่ให้ผมสั่งซื้อ ทั้งๆที่ผมซื้อ เป็น License ที่3 แล้ว ผมเลยคิดว่า Norton คงรวยแล้วกะมัง

ครั้งได้  3 มิติ ไว้ต่อฉบับหน้าครับ  ในมิติที่เหลือ ของการตลาดปี 2015  หากใครสนใจ สัมนา อัพเดทเทรนด์แห่งปี 2015 ก็คลิกไปได้ที่นี่ครับ   Marketing4.0Trend 2015
hostgator coupon