Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Marketing 4.0 > Dynamic Marketing

การตลาด 4.0 > Dynamic Marketing


Dynamic Marketing ตั้งแต่ Kotler ได้คิดโมเดลพื้นฐานการตลาด ที่เรียกว่า 4Ps และนำมาใช้เป็นรากฐานกลยุทธ์ทางการตลาด ปัจจุบันมีการขับเคลื่อนพลวัตรในแต่ละมิติ และยอมรับว่า ลูกค้ามีการขับเคลื่อนจากแค่รับรู้ จนเกิดการตัดสินใจและซื้อ และผูกพันธ์เป็นสาวก ที่เรียก Customer Journey เส้นทางเดินทางของลูกค้าไปสู่การซื้อ ซื้อซ้ำ ชวนญาติเพื่อนมาซื้อ หรือ Path to Purchase เราเริ่มเห็นวิวัฒนาการกลยุทธ์ 4Ps



1)Products จากตัวเดียว แตกลูกหลานเป็นหลายรส กลิ่น สี Choices ให้ลูกค้าเลือก จนมาทำ customized ปรับได้ตามลูกค้าต้องการ และ มาถึง ปรับเป็นเฉพาะคุณคนเดียวเท่านั้น for me and me alone
2)Price เข้าสู่ขบวนการตั้งราคา เป็นชั้น สูงกลางต่ำ มาสู่ผันแปรตามเวลาสำหรับสินค้าIT Fashion มาสู่ผันแปรตาม อุปสงค์อุปทานแบบ Realtime ขณะนั้นที่เรียก Bid หรือ Dynamic Price เช่นห้องพักโรงแรม ที่ผันแปรราคาตลอดเวลา รวมถึงพวก Low cost airline ที่ราคาต่ำๆก่อนเพื่อเติมเต็มอุปสงค์แล้วก็ขึ้นราคา เพราะอุปสงค์คลุมถึงต้นทุนแล้ว ต่อไปก็ขายราคาสูงขึ้น
3) Place จากการขายช่องทางเดียว เป็นขายหลากหลายช่องทางMuliti Channel   บางทีพฤติกรรมที่ลูกค้ายุคนี้ที่เห็นบ่อยๆคือชอบ Search Online  Purchase Offline  หาข้อมูลออน์ไลน์แต่ดันไปซื้อหน้าร้าน  และจากMulti Channel เป็นการจำหน่ายแบบ Omni Channel คือจากชั้นตอนดูข้อมูลออน์ไลน แล้วไปเดินดูของ ทดลองของจริงในห้างฯ หรือหน้าร้าน  แต่ไม่ซื้อหน้าร้านแต่ดันไป ซื้อผ่าน ออน์ไลน์   หลังเวลาสั่งออร์เดอร์ แล้วให้มาส่งของที่บ้าน หรือการซื้อออน์ไลน์ แต่เวลาคืนของที่ร้านค้า หรือไปรับบริการซ่อมสินค้าที่หน้าร้านค้าหรือศูนย์บริการ  ช่องทางต่างๆ ไม่ว่าช่องทางสื่อสาร ช่องทางจำหน่าย ช่องทางส่งของ ช่องทางบริการจะถูกเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวมีฐานข้อมูลลูกค้าเดียวกัน ดึงข้อมูลจากทุกจุดได้เหมือนๆกัน ไม่แยกฐานข้อมูลเหมือนในอดีต ดังนั้นขนาดฐานข้อมูลลูกค้าจะใหญ่ขึ้น จนรู้พฤติกรรมลูกค้า ทุกๆContact Points  เรียกว่า Big Data      
4) Promotion จากการสื่อสาร วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ Positioning ไปสู่การวางคำหลัก Keywords และไปสู่ Semantic Keywords ที่เป็นการวางคำหลัก ดูความสัมพันธ์ระหว่างคำหลัก เช่น คอมพิวเตอร์ ซ่อมคอมพิวเตอร์ อัฟเกรดคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์มือสอง มันเป็นคำหลักและความสัมพันธ์ของคำหลัก ที่ลูกค้าค้นหา มาสู่การค้นหาในแต่ละช่วง Sequential ตาม customer journey เช่น ตอนแรกลูกค้าค้นจาก คำหลักทั่วไป จากนั้นเป็นคำหลักที่มีแบรนด์ผสม ตอนเปรียบเทียบ ระหว่างการตัดสินใจ และ ไปสู่คำหลักที่มีคำว่าราคา โปรโมชั่น เมื่อลูกค้าใกล้ตัดสินใจซื้อ และไปสู่ คำหลักที่เกี่ยวข้องกับ ช่องทางซื้อ ผ่อนดอกเบี้ย0% ส่งด่วน และ เป็นคำหลักที่เกี่ยวข้องกับ บริการลูกค้า คืนของ สายด่วน เมื่อลูกค้าซื้อไปแล้ว จะเห็นว่าเป็นสินค้าเดียวกัน ในเวลาหรือขั้นตอนต่างกันของCustomer Journey ลูกค้า คำหลักที่ค้นก็ต่างกัน และนี่คือความหมายของ Semantic&Sequential keywords ที่นักการตลาดSEO(Search Engine Optimization)   นักการตลาดSEM(Search Engine Marketing)     นักการตลาดด้านContent Marketing ต้องเข้าใจ Sequencing คำหลักให้สอดคล้องกับ stage ในขบวนการซื้อลูกค้าซึ่งใช้เครื่องมือทางการตลาดแตกต่างกัน ตั้งแต่ Organic Search ,PPC ,Brand Paid Search, Referral ,Email ,IM-Chat, POS ,Direct

วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Marketing 4.0 > Inbound Marketing

การตลาด 4.0 > Inbound Marketing

Inbound Marketing ความหมายคือการใช้การตลาด ดึงดูดลูกค้าเข้ามาหา ด้วยการมีเนื้อหาที่ลูกค้าสนใจผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจจะเพราะลูกค้าสนใจเรื่องนั้นๆหรือ เป็นช่วงที่ลูกค้าต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ช่วงนั้น เช่นกำลังจะแต่งงาน ก็มองหาสินเชื่อบ้าน   หรือ กำลังมองหาบ้าน   กำลังจะซื้อมือถือ  กำลังจะไปเที่ยวเกาะสมุย ก็จะสนใจโรงแรมสถานที่ท่องเที่ยว ในเกาะสมุย  แน่นอนกลุ่มลูกค้าก็จะแสวงหาข้อมูลและทำการค้นหาข่าวสารที่เกี่ยวข้อง   ดังนั้นการทำContent Marketing โดยแบรนด์จะต้องให้ข้อมูลข่าวสาร ที่สามารถตอบโจทย์ ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งปกติลูกค้าจะพยายามค้นหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อ ทั้งทาง Offline เช่นแวะตระเวนหาทดสอบทดลองผลิตภัณฑ์ตามร้าน งานแฟร์   Buying Guide  นิตยสาร หาข้อมูลจากสื่อข่าว Online  อินเทอร์เน็ต  จาก Blogger เว็บคนกลาง เว็บวิจารณ์  สื่อสังคมออน์ไลน์
โดยมีขั้นตอนดึงดูดลูกค้า เก็บรายชื่อลูกค้า และสร้างความผูกพันธ์กับลูกค้าแบบค่อยๆหล่อหลอม แบบการสร้างลัทธิ ให้ลูกค้าแชร์ บอกต่อ     Inbound Marketing  จะทำหน้าที่ดึงดูดลูกค้าจากขั้นตอน

  1.  การค้นหา Searchจนมาสู่การเปรียบเทียบตัดสินใจ ด้วย Search Marketing   SEO,SEM  Web Marketing,Social Media Marketing,Blog Marketing
  2. Decision Marking ลูกค้าจะถูกนำมาสู่  หน้าเว็บ  แฟนเพจ  แบรนด์เพจ หรือ หน้าที่มีกิจกรรมส่งเสริม ผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เราโปรโมท 
  3. การซื้อจริง Purchase ซึ่งแบรนด์จะต้องจัดสรรผลิตภัณฑ์ในหน้าเว็บ E Commerce  หรือบริหารช่องทางจัดจำหน่าย Omni Channel และมาสู่
  4. การเป็นแฟนพันธุ์แท้ครับ Advocate โดยแต่ละขั้นตอนมีการใช้เครื่องมือการตลาด ซึ่งต้องมี บริหารประสบการณ์ลูกค้าCEM และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าCRM ดังในภาพข้างบนครับ

Marketing 4.0 > Relationship Marketing

การตลาด 4.0 > Relationship Marketing




Relationship Marketing กินความหมายกว้าง คือการทำตลาดสร้างสัมพันธ์กับ Stakeholder ผู้เกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วม กับ ธุรกิจเราหลายๆกลุ่มหลายมิติ
1.Customer Relationship Marketing คือการตลาดสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าเรา ซึ่งเน้นการรักษาลูกค้าเก่าให้ได้ ไม่สูญเสีย  และการสร้างรายได้และความภักดีจากลูกค้า    CRM ประกอบด้วยกลยุทธ์
  • Customer  Strategy   กลยุทธ์ลูกค้า คือการดูว่า Who ลูกค้าเป็นใคร  What ต้องการอะไร  
  • Relationship Strategy กลยุทธ์สร้างสัมพันธ์กับลูกค้า ต้องตอบคำถามว่า  How จะทำอย่างไรเพื่อเอาใจลูกค้า  ซึ่งวิธีการเอาใจลูกค้ามีตั้งแต่  สะสมยอดซื้อ  ให้บริการปูพรม เฉพาะตัว    ให้รางวัล ให้ความรู้   จัดชมรมหรือชุมชนลูกค้า เช่น ถนนสีขาว  ขับขี่รถปลอดภัย   ปลูกป่า   ประกวดสุนัข
  • Management  of Contact  กลยุทธ์บริหารการติดต่อ กับลูกค้า ว่า When ควรติดต่อลูกค้าเมื่อใด Where   ผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารไหน   และจะบริหารกำไรจากความสัมพันธ์ที่มีอย่างไร  Profit Management
2.Supplier Relationship Marketing การตลาดที่ทำกับผู้ป้อนวัตถุดิบ หรือ แหล่ง Input ของเรา เช่น Starbuck ทำกับ ผู้ปลูกกาแฟ 600 รายทั่วโลก เพื่อให้มีกาแฟป้อนทั้งปีและราคาไม่แกว่ง ตามฤดู ซีพีทำกับเกษตรกร ที่เลี้ยงไก่ สุกร
3.Employee Relationship Marketing ทำตลาดสื่อสารกับพนักงานให้ทราบถึง วิสัยทัศน์ ความเชื่อมั่นในองค์กร การสร้างทัศนคติ ไปสู่จุดหมายเดียวกัน และทำให้พนักงานรักองค์กร
4.Public Relationship Marketing คือการทำตลาดเพื่อ สื่อสารภาพพจน์องค์กร เช่นการทำ CSR Corporate Social Responsibility บริษัททำเพื่อสังคม  Green Marketing ทำการตลาดเพื่อโลกสีเขียว หรือรักษ์โลก
5.Investor Relationship Marketing การทำการตลาดเพื่อ เอาใจ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้น และทำความเข้าใจกับ นักลงทุน ถึงทิศทาง สถานการณ์ ธุรกิจ   เชิญนักลงทุนไปเยี่ยมชมบริษัท

Marketing 4.0 >Engagement Marketing


การตลาด4.0 > การตลาด Engagement Marketing



Engagement Marketing อย่าเข้าใจผิด มันไม่ใช่การตลาดเพื่อการหาคู่หมั้น แต่เป็นการตลาดที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามามีส่วนร่วม เสนอแนะในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ‪offer‬ ข้อเสนอทางการตลาด ไม่ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ Promotion หรือ การให้บริการ ให้แต่ละราย ทีละคน แตกต่างกัน โดย มี 3วงจร ดังภาพ

  1.  Attract ดึงดูดลูกค้า ด้วยการให้ข้อเสนอจูงใจ Offer เช่น ของแจกฟรี บัตรส่วนลด ebook   ทดลองฟรี ตัวอย่างสินค้า หรืออะไรพิเศษๆ ที่ล่อใจลูกค้าให้แสดงตัว ยอมให้รายชื่อ และข้อมูลส่วนตัว โดยลูกค้าจะถูกนำเข้ามาในหน้าเว็บ ที่มีโฆษณา ของล่อใจอยู่  หน้านี้จะเรียก หน้า Landing Page และทำหน้าที่  Lead Capture  เก็บข้อมูลผู้สนใจเข้ามาในระบบฐานข้อมูลลูกค้า
  2. Engagement สร้างปฏิสัมพันธ์ และความคุ้นเคย พร้อมรับข้อเสนอแนะลูกค้า แบบสองทาง ด้วยสื่อ เมล์ chat  มีการโต้ตอบ ให้ลูกค้ามีคำถาม หรือข้อสงสัย หรือ ตอบกลับมาหาเรา ทั้งสื่อ Outbound Marketing  และ Inbound Marketing
  3. Buzz หรือ Viral Marketing สร้างแรงกระทบสู่วงนอก ให้ลูกค้าและคนคุ้นเคยเริ่มแชร์ วิพากษณ์ และส่งต่อ ไม่ว่าจะอยู่ใน Social media หรือ เข้าร่วมกิจกรรม Event ทั้ง Online Offline จนเกิดการซื้อ ซื้อซ้ำ ชวนเพื่อนญาติมาซื้อ Purchase  เช่นลูกค้าไปร่วมงานก็แชร์ภาพออกไป หรือลูกค้าได้ของตัวอย่างมาแล้วก็โชว์ของพร้อมแชร์ภาพออกไป    หรือลูกค้าได้ซื้อสินค้าไปแล้วพอใจถูกใจก็แชร์ออกไป ให้เพื่อนญาติของเขาได้รับรู้ทราบช่าวสาร  ตรงนี้แหละครับที่ถือว่าลูกค้าทำตัวเป็น Brand ambassador  ให้กับเรา
นี่แหละเรียก ‪Engagement‬ ‪Marketing‬ ในฉบับหน้าเราจะพูดถึง  Relationship  Marketing กันครับ  
hostgator coupon