Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Marketing4.0 > IMC4.0

Integrated Marketing สำหรับ การตลาด ยุค 4.0

กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดสำหรับ การตลาดยุค 4.0  โดยเริ่มจากการตั้งเป้าหมาย ตลาด และเลือกเครื่องมือหรือสื่อในการเข้าถึงลูกค้า และดึงชักจูงลูกค้าเข้ามาในสื่อส่วนตัวของเรา  และเก็บรายชื่อคนสนใจให้เข้าฐานข้อมูลผู้สนใจให้ได้  แล้วเปลี่ยนกลุ่มสนใจให้เป็นลูกค้าแล้วค่อยๆสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าCRM จนได้ มูลค่าหัวตลอดชีพเป็นที่พอใจ

Targeting4.0

ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาหากใครตามไม่ทันก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ระบบ การทำ Segmentation และ Targeting ได้พัฒนาถึงขีดสุดๆ หากเรามีฐานข้อมูลลูกค้าเช่นคนซื้อ สมาชิก เราสามารถนำข้อมูลนี้ไปMerge หรือค้นหาจากสาระบบBig Data ของ FB หรือ ฐานข้อมูล Google ได้ เรียกว่าการทำ Custom Audience หรือ Customer Match ทั้งสองค่ายจะไปค้นฐานข้อมูลว่าเจอะลูกค้าเราในฐาน FB Google กี่ราย เมื่อเจอะแล้วเราก็ Save ไว้ใช้ ต่อไป แน่นอนเราสามารถขยายฐานลูกค้านี้ด้วยการสั่ง Look Alike หรือ Similar Audience  คือไปหาคนที่มีลักษณะคล้ายกับลูกค้าเราได้ ในภาพคือพื้นที่สีขาวตรงกลาง ซึ่งจะมีฐานข้อมูลที่ใหญ่กว่า จากนั้นเราสามารถคัดกรองลูกค้าได้ ตาม Demo เพศอายุ Locationที่เราจะทำกิจกรรมตลาด Lifestyleแบบที่เราต้องการเจาะ หรือสื่อที่เขาดู เพื่อหาคนที่ใช่ เป็นการ Micro Segement ลึกลงไปอีก เช่นต้องการเจาะ คนที่มีลักษณะเหมือนลูกค้าเรา แต่ อยู่ในกรุงเทพ อายุเกิน 20 ปี ผู้ชาย ชอบสังสรรค์ Nightlife อ่านนิตยสารผู้ชาย สนใจรถยนต์ แล้วสั่งโฆษณาไปโผล่ให้คนกลุ่มนี้เท่านั้นเห็น

IMC4.0 


นิยามใหม่ของการใช้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาด ที่ต้องเป็น True Integration จริงๆ มีคุณสมบัติดังนี้
1. ซึ่งไม่มีการแบ่งแยกเครื่องมือOnline VS Offline ไม่แบ่งแยกOutbound Vs Inbound เป็นการใช้ช่องทางแบบผสมผสานOmnichannelมากกว่าการใช้Multi Channelต่างเครื่องมือต่างทิศทางแบบเซียงกง การเลือกเป้าหมาย
2.มีการขับเคลื่อนลูกค้า ตาม Customer Journey จากรู้จักเป็นสนใจ ตัดสินใจซื้อ และมีการสื่อสารหลังซื้อ เพื่อมั่นใจว่าประสบการณ์ลูกค้าจะดีต่อเนื่องและตลอด
3.คำนึงถึง ทั้ง Content & Context Marketing Positioning >คำหลัก > Offer ที่จะให้กับลูกค้าเพื่อสร้าง ผลกระทบ แพร่กระจาย และ เครื่อข่าย Viral Marketing และความชอบธรรมในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆAuthority

ด้านบนภาพ IMC Flow
1. วางเป้าหมายตลาด พร้อมการเลือกใช้สื่อ Offline   Online อย่างผสมผสาน Integration  ให้ข้อเสนอที่ลูกค้าสนใจ
2. ให้ข้อมูลเชิงลึก เมื่อลูกค้าเข้ามาใน สื่อส่วนตัวของเรา เช่น  Web  Facebook Youtube
3. เปลี่ยน Visitor  ให้กลายมาเป็นคนสนใจเรา หรือLead ให้ได้   ในฐานข้อมูลผู้สนใจ
ส่วนการเลือกเป้าหมาย(ดู Post ใน Home ก่อนหน้านี้)
4. ติดตามด้วยสื่อเฉพาะตัว เช่น Remarketing   Line@    SMS   email   Tele เพื่อให้คนสนใจกลายมาเป็นลูกค้า
ตรงกลางภาพ
คือ Customer Journey  หรือเส้นทางการเดินทางลูกค้า   จาก รับรู้ รู้จัก ไปสู่ การเปรียบเทียบ สนใจ ไปสู่การตั้งใจซื้อ   ในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อ แต่ละขั้นตอนต้องใช้  Content Strategy  ที่ต่างกันในแต่ละขั้นตอน
ด้านล่างภาพ
Content & Context Marketing    
สื่อสารด้วย Creative Content  ที่ต้องคำนึงถึง Positioning >คำหลักKeywords >เนื้อหา (ความชอบธรรมในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ  Web Authority )  >ข้อเสนอต่างๆจูงใจให้ลูกค้ายอมแสดงตัวตน แล้วเข้าฐาน Lead Capture  ให้ได้
ในขั้นนี้การสร้างแรงบวกในกระแสสังคมออน์ไลน์   และ ใช้Eventเป็นตัวขับเคลื่อนและสร้างชุมชน  
การให้ Offer เพื่อให้ลูกค้าแสดงตน

Marketing4.0 > Retail4.0

Marketing4.0 > Retail4.0





Retail 4.0 เนื้อหาจากMc Kinsey ที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ซี่งผมบังเอิญได้อ่านเจอะและเห็นว่ามันคล้ายๆกับแนวคิด Marketing4.0 ที่เรากำลังคุยกันอยู่

Retail1.0

Retail 1.0 เมื่อเริ่มต้นศตวรรษ ที่ 20 โมเดลแรก ร้านค้าปลีกที่ เปิด ชั้นโชว์ของกว้าง ให้ลูกค้าหยิบเอง พร้อมติดป้ายราคา จุดคิดเงิน พนักงานร้านแต่งชุด ต้นแบบคือ Piggly Wiggly ที่ขยาย Chain ออกไป 2,500 ร้านค้า บ้านเราคงเทียบได้กับ 7-11 ซึ่งตอนปลายๆยุค เริ่มมีการพัฒนาเน้น กลยุทธ์ราคา พื้นที่ ร้านกว้างขวาง มีที่จอดรถ Category Management จัดหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่ม พร้อมการวางผังจัดวางสินค้าบนชั้นวางที่เรียก Planogram เพื่อช่วยให้หาง่าย ขายดี ในบ้านเราคล้ายกับ แบบ Food land Top Supermarket

Retail 2.0 

เป็นยุค Hyper Mart ใช้พื้นที่ทุกตารางเมตรให้เป็นประโยชน์แม้กระทั่งพื้นที่บนอากาศ เน้นประสิทธิภาพ และการลดต้นทุน ลูกค้าได้ของถูกตังค์ ถูกใจ ด้วยของเลือกหลากหลายแบบ และการขยาย Hypermart เป็น Super Center มีการผลิตตรายี่ห้อของร้านค้าเอง ทำ Category Killer  การจัดโชว์และวางสินค้าโดยCategory มิใช่ โดยกลุ่มแบรนด์  เช่น Catทีวีแยกกับ Catเครื่องเสียง  เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบ สเป็คและราคารุ่นต่อรุ่นชนกัน   (มิใช่โชว์ SONY มีทุกสินค้าภายใต้แบรนด์ SONY ) พร้อมทั้งมีร้านค้าในพื้นที่มากมายมาเสริม  เจ้าพ่อคือ ​Walmart

Retail3.0 

เป็นยุคของพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ ในปี 1995 กำเนิด Amazon ต้นแบบของการค้าขายออน์ไลน์ และเจ้าพ่อระบบ แนะนำ หากคนที่ซื้อหนังสื่อเล่มนี้ มักจะซื้อเล่มนี้และนี้ด้วยProduct Suggestion ลดต้นทุน Logistics จากนั้นก็มี e auction eBay Zappos ในยุคนี้เฟืองจักรหลักคือ Analytics การวิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมุ, Bigdata ส่วนe grocery ที่ขายของสดของชำออน์ไลน์ ต้องล้มลุกคลุกคลานกว่าจะหาแนวทางที่ใช่เจอะ ไม่ว่าเป็น Peapod Ocado AmazonFresh

Retail4.0 

Omni-channel เป็นยุคที่ห้างฯเริ่มปรับตัว Learn to Dance Online เช่นเดียวกับบริษัทใหญ่ๆ แต่เป็นการผสมผสาน โมเดล หน้าร้าน Offline+Online เช่นสั่งซื้อออน์ไลน์มาเก็บของจ่ายตังค์หน้าร้าน Click&Collect Drive-throughหรือ ซื้อหน้าร้านแล้วให้ส่งไปที่บ้านได้ รวมถึงการทำ Virtual store ไปที่แหล่งปลาชุมเช่น Tesco Homeplus ทำที่สถานนีรถไฟฟ้าใต้ดิน และขยายผลไปยัง ป้ายรถเมล์ หรือ Walmart ใช้ MOBILE APPS เพื่อให้ลูกค้า ช้อปในร้าน และสแกน Bar code สินค้า ก็จะเข้าไปใน Basket สั่งซื้อ ส่วนลูกค้าก็สามารถดูว่าตัวเองซื้ออะไรไปเท่าไรแล้ว และทำ Self Check-out คือ สแกน QR code เครื่อง เช็คเอาวน์ ข้อมูลในBasketจะเข้าสู่เครื่อง คิดเงิน รูดบัตร ลูกค้าไม่ต้องยกของออกจากรถเข็นเลย อนาคต ใช้ Mobile Wallet ผ่าน NFC ไม่ต้องรูดการ์ดแล้ว ปรากฎการณ์ Showrooming คือลูกค้าลองของหน้าร้านและกลับไปซื้อออน์ไลน์เพราะของราคาถูกกว่า ทำให้ร้านค้าต้องปรับตัว เป็น Dynamic Pricing เหมือนธุรกิจโรงแรม แขก Walk-in มิใช่หมูวิ่งชนปังตออีกต่อไป เพราะเขาถามว่าทำไม ใน Agoda Booking เขาขายราคาเท่านี้เองล่ะ ADR (Average Daily Rate) แขก Walk-inก็เลยไม่สูงกว่า Online มากเหมือนในอดีต รวมถึงขณะอยู่หน้าร้านค้า ลูกค้าจะเช็คข้อมูลเน็ตบนมือถือขณะที่คุยกับพนักงานหน้าร้าน ใครรู้ไม่จริงมีหวังโดนดินกลบหน้า ในอนาคตจะมี electronic shelf labeling platform(ESL) ที่ทำให้หน้าร้านเปลี่ยนราคาได้แบบ Dynamic เพื่อป้องกันปัญหานี้
hostgator coupon