การตลาด 4.0 > บริหารคนสายพันธุ์ใหม่ 4.0
เปลี่ยนจาก Oneman Show เป็น Networking Co-creation เน้น ตัว Realtime KPI
ทำงานเป็นที่ปรึกษามา 20ปี ก็อยากเล่าว่า รากเหง้าปัญหาขององค์กร มักมาจาก การที่เจ้านายมักมีแต่เครื่องส่งไม่มีเครื่องรับ เวลาคุยกับลูกน้องตัวเอง บางทีก็กลายเป็นพูดฝ่ายเดียว ไม่มีมันสมองจากลูกน้องเลย นี่แหละปัญหาธุรกิจ ถ้ามีแก้วใบหนึ่งวางที่พื้นแล้วมีคนมาเตะแตก จะเกิด 2 กรณี
1.ถ้าคนเตะแก้วเป็นเจ้านาย ก็จะมีคำพูดว่า ใครมาวางแก้วเกะกะแถวนี้ว่ะ วางไม่เป็นที่เป็นทาง
2.ถ้าคนวางแก้วเป็นนาย ก็จะมีคำพูดว่า เดินอย่างไงไม่ดูตาม้าตาเรือ เตะแก้วแตกได้
ผมเคยพบเหตุการณ์สองกรณี
1.นายเคยชอบตัดสินใจคนเดียว เลือกแบบสินค้าเอง ว่าจะออกตัวนั้นตัวนี้ สีนั้นสีนี้ ต้องปรับแบบนั้นแบบนี้จะดีทำตามความรู้สีกตนเอง เพราะเมื่อก่อนไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริง แต่ต่อมา มีระบบข้อมูลขายหน้าร้านบ่งชี้ ลูกน้องบอกว่า นายถ้าสีเนื้อสีครีมขายไม่ได้น่ะ แต่ขาวเทาดำขายได้ เพราะข้อมูลขายมันบ่งชี้ ในที่สุดนายต้องถอย เออ กูไม่เอาก็ได้ให้ผลิตตามใจมึง ลูกน้องบริษัทนี้นับวันมีแต่เก่งขึ้นมีมันสมองมากขึ้น และธุรกิจขยายได้เติบโต เพราะมีมวยแทนมากขึ้นทั้งองค์กรนายเหนื่อยน้อยลงทุกวัน

2 นายบางคนนี้สิ ไม่ฟังข้อเท็จจริง กูถูกคนเดียว นี่แหละ แม้ข้อเท็จจริงจะออกมาสวนทางก็ยังอยากเอาชนะพร้อมกับคำว่าประสบการณ์ (ในอดีต) ไม่ฟังข้อเท็จจริงปัจจุบันแต่เชื่อความรู้สึกตนเองมากกว่า ก็จะพบแต่พวกลูกน้องประเภท ถูกครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน โปรโมทตำแหน่งลูกน้องขี้นมาก็จะบอกว่าไม่มีใครทำหน้าที่ได้เลย เพราะลูกน้องไร้สมองกันหมดเห็นต่างไม่ได้ แล้วก็มาบ่นว่าเหนื่อย ต้องทำงานคนเดียวทั้งองค์กรไม่มีใครทำแทนเขาได้เลยต้องลงไปดูแลทุกจุดทุกฝ่าย เข้าทำนองว่า ตดคนอื่นนั้นเหม็นเหลือจะทน ตดของตนนั้นหอมดีมีสกุล นี่แหละครับ ธุรกิจแบบนี้ก็เลยโตได้จำกัด และยิ่งโตยิ่งน่ากลัวเพราะดูแลไม่ถึง
ก็เลยอยากจะเน้นว่า การบริหารแบบใหม่ นั้นเป็น Pseudo Science เหมือนที่ Kotler บอกว่า การตลาดมันเป็น กึ่งวิทยาศาสตร์ หมายถึงพิสูนจ์ได้จากข้อเท็จจริง หาเหตุปัจจัยได้ ยิ่งในยุค 4.0ด้วยระบบข้อมูลมาแบบ Realtime ยิ่งทำให้การเชื่อมโยงข้อเท็จจริง ได้เร็วทันทีทันควัน การชนะอยู่ที่ การวางระบบงาน มีAnalytics และตัดสินใจจากข้อเท็จจริงมากกว่า เชื่อความรู้สึก บริษัทรุ่นใหม่จะวางระบบการตัดสินใจเป็น Algorithm อัตโนมัติ เป็น Platform ด้วยซ้ำ ต่อจากนี้ไปคุณจะได้ยินบ่อยขึ้นถึง Marketing Automation Sales Automation Auto Replacement Auto Response ( ตัวอย่างHealth Tap Chat Bot จาก ไป้ตู้ https://vimeo.com/162458358 ) ผ่าน IoT Internet of Things
2ยุดสอง ผมมาทันยุคนี้ คือเมื่อก่อน ทีมขายของผม ในธุรกิจแค็ตตาล็อค และDRTV ขายของผ่านโทรทัศน์ กองทัพเราคือทีมขายทางโทรศัพท์ เมื่อยิ่งแคมเปญแล้ว เราก็มาคอยลุ้นระทึกว่าโทรศัพท์เข้าไหมดังไหม ลูกค้าโทรเข้ามาเยอะก็จะปิดขายได้เยอะ ยอดดีแน่ๆ ยุคนี้คือ Telesales Telemarketing Workspace คือ Tele Booth
3. จากนั้น ก็ เริ่มเปลี่ยนไป เป็นมีระบบ การสั่งซื้อ ผ่านระบบ ตะกร้าBasket มี Booking Engine Reservation Engine สำหรับจอง ผ่านระบบคอมฯ รู้ยอดขาย ผ่าน ระบบทันที แบบE Commerce ผ่านเว็บไซด์ และ Search Engine workspace พวกนาง นายคือ คอมพิวเตอร์หน้าจอ
4. โซเชียลมีเดียFB IG เติบโต มีทีมขาย ออน์ไลน์ เฝ้า Inbox ตัวเองคอยโต้ตอบกับลูกค้าก็สามารถ ขายของได้ เป็น Social Commerce ทีมขาย FB Inbox คือกองทัพที่จะต่อกรกับคู่แข่ง ทั้ง ด้าน บริการ ด้านขายตรง และส่งลูกค้าไปหน้าร้าน workspace คือ คอมฯ และมือถือ
5. Mobile Apps ที่ มีการพูดคุยส่วนตัวผ่าน Chat ไม่ว่า เป็น Line Messenger กองทัพเราคือ พนักงาน คอยตอบ live chat หรือ ใน Line@ workspace คือมือถือ

6. Internet of Things เมื่ออุปกรณ์คอมฯ อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน เริ่มต่อเชื่อมโยงหากัน พูดคุยกันรู้เรื่อง ตัวอุปกรณ์มี Sensor ตัวตรวจวัด ว่า ไอ้นี่หายไป 3 กระป๋องจากตู้เย็น มันจะส่งสัญญานเตือนเติมสต๊อคได้แล้วน่ะ หรือเชื่อมโยงไปยังผู้ขาย อัตโนมัติ ผ่าน Algorithm หรือชุดของโปรแกรมคำสั่ง เช่นเครื่องพิมพ์ Multifunction พิมพ์งานไป สองหมื่นแผ่นแล้วเตรียมส่ง ซัพพลายผงหมึกมา พร้อมช่างเข้าตรวจสภาพ เครื่องนวดหน้าตรวจจับสภาพบนหน้า แล้วส่งสัญญาเตือน ผู้ขาย ระบบการเติมเต็มผลิตภัณฑ์แบบอัตโนมัติ จาก ผู้ใช้ มายังร้านค้า ผู้ขาย ไปยังคลังสินค้า และสายการผลิต กองทัพทีมขายมันเริ่มกลายเป็น หุ่นยนต์ ระบบ Robot จะทำงานแทนเรา ไปๆมาๆ นี่กลายเป็นว่าตูต้องมารบกับ Robotหรือนี่ และ มีกองทัพขายเป็น Robot ด้วย นี่ตูจะ Soft Landing4.0 หรือ Hard Landing 4.0 ดีว่ะนี่ ในยุค Thailand 4.0
ก็เลยอยากจะเน้นว่า การบริหารแบบใหม่ นั้นเป็น Pseudo Science เหมือนที่ Kotler บอกว่า การตลาดมันเป็น กึ่งวิทยาศาสตร์ หมายถึงพิสูนจ์ได้จากข้อเท็จจริง หาเหตุปัจจัยได้ ยิ่งในยุค 4.0ด้วยระบบข้อมูลมาแบบ Realtime ยิ่งทำให้การเชื่อมโยงข้อเท็จจริง ได้เร็วทันทีทันควัน การชนะอยู่ที่ การวางระบบงาน มีAnalytics และตัดสินใจจากข้อเท็จจริงมากกว่า เชื่อความรู้สึก บริษัทรุ่นใหม่จะวางระบบการตัดสินใจเป็น Algorithm อัตโนมัติ เป็น Platform ด้วยซ้ำ ต่อจากนี้ไปคุณจะได้ยินบ่อยขึ้นถึง Marketing Automation Sales Automation Auto Replacement Auto Response ( ตัวอย่างHealth Tap Chat Bot จาก ไป้ตู้ https://vimeo.com/162458358 ) ผ่าน IoT Internet of Things
Disruption ยุคของการเปลี่ยนแปลงแบบข้ามวัน
Soft Landing 4.0 VS Hard Landing 4.0 จบกัน แล้วจะปรับตัวอย่างไงว่ะ มันเร็วจัง Disruption ของกองทัพนักขาย และSales Pipeline ทำให้ตั้งตัวไม่ทัน 1.ยุคทองของธุรกิจยอดนักขาย ทั้งมือทองมือฝังเพชร อาศัยการขายแบบ เผชิญหน้า Knockdoor F2F (Face to Face) อาวุธคือ Representative บริษัทขายตรงจะคุยกันว่าฉันมี แสนเร็บ คือมีพนักงานขายแสนคนว่างั้น2ยุดสอง ผมมาทันยุคนี้ คือเมื่อก่อน ทีมขายของผม ในธุรกิจแค็ตตาล็อค และDRTV ขายของผ่านโทรทัศน์ กองทัพเราคือทีมขายทางโทรศัพท์ เมื่อยิ่งแคมเปญแล้ว เราก็มาคอยลุ้นระทึกว่าโทรศัพท์เข้าไหมดังไหม ลูกค้าโทรเข้ามาเยอะก็จะปิดขายได้เยอะ ยอดดีแน่ๆ ยุคนี้คือ Telesales Telemarketing Workspace คือ Tele Booth
3. จากนั้น ก็ เริ่มเปลี่ยนไป เป็นมีระบบ การสั่งซื้อ ผ่านระบบ ตะกร้าBasket มี Booking Engine Reservation Engine สำหรับจอง ผ่านระบบคอมฯ รู้ยอดขาย ผ่าน ระบบทันที แบบE Commerce ผ่านเว็บไซด์ และ Search Engine workspace พวกนาง นายคือ คอมพิวเตอร์หน้าจอ
4. โซเชียลมีเดียFB IG เติบโต มีทีมขาย ออน์ไลน์ เฝ้า Inbox ตัวเองคอยโต้ตอบกับลูกค้าก็สามารถ ขายของได้ เป็น Social Commerce ทีมขาย FB Inbox คือกองทัพที่จะต่อกรกับคู่แข่ง ทั้ง ด้าน บริการ ด้านขายตรง และส่งลูกค้าไปหน้าร้าน workspace คือ คอมฯ และมือถือ
5. Mobile Apps ที่ มีการพูดคุยส่วนตัวผ่าน Chat ไม่ว่า เป็น Line Messenger กองทัพเราคือ พนักงาน คอยตอบ live chat หรือ ใน Line@ workspace คือมือถือ

6. Internet of Things เมื่ออุปกรณ์คอมฯ อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน เริ่มต่อเชื่อมโยงหากัน พูดคุยกันรู้เรื่อง ตัวอุปกรณ์มี Sensor ตัวตรวจวัด ว่า ไอ้นี่หายไป 3 กระป๋องจากตู้เย็น มันจะส่งสัญญานเตือนเติมสต๊อคได้แล้วน่ะ หรือเชื่อมโยงไปยังผู้ขาย อัตโนมัติ ผ่าน Algorithm หรือชุดของโปรแกรมคำสั่ง เช่นเครื่องพิมพ์ Multifunction พิมพ์งานไป สองหมื่นแผ่นแล้วเตรียมส่ง ซัพพลายผงหมึกมา พร้อมช่างเข้าตรวจสภาพ เครื่องนวดหน้าตรวจจับสภาพบนหน้า แล้วส่งสัญญาเตือน ผู้ขาย ระบบการเติมเต็มผลิตภัณฑ์แบบอัตโนมัติ จาก ผู้ใช้ มายังร้านค้า ผู้ขาย ไปยังคลังสินค้า และสายการผลิต กองทัพทีมขายมันเริ่มกลายเป็น หุ่นยนต์ ระบบ Robot จะทำงานแทนเรา ไปๆมาๆ นี่กลายเป็นว่าตูต้องมารบกับ Robotหรือนี่ และ มีกองทัพขายเป็น Robot ด้วย นี่ตูจะ Soft Landing4.0 หรือ Hard Landing 4.0 ดีว่ะนี่ ในยุค Thailand 4.0