Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559

Marketing4.0 > Entangled Marketing



Entangled Marketing จากทฤษฎี Quantum Mechanic ของไอสไตน์ 

 วันนี้ผมจะพูดอยู่สองเนื้อหา ซึ่งค่อนข้างจะเกี่ยวกัน พูดถึงความสัมพันธ์ หนึ่งต่อหนึ่ง ระหว่าง แบรนด์ ที่ใช้พนักงานเราขับเคลื่อน กับ ลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์ดีๆจากแบรนด์   

Me2B & Omni Experience


วันนี้ ผมได้เรียนรู้สองเรื่องใหม่ คือ Me2B กับ เรื่อง Entangled Marketing มันพูดถึงเหรียญคนละด้าน
1) Me2B แนวคิดแรกเป็นของ Bill Price เป็น การทำธุรกิจโดยลูกค้า แนะนำสู่
ธุรกิจ ให้ ทำตามที่ลูกค้าต้องการ ดังนั้นธุรกิจจะต้องรับฟัง นำไปคิด และ ทำให้คนที่ต้องสัมผัสลูกค้า
สามารถสร้างสรรค์ อะไรดีๆให้ลูกค้า รู้จักจำลูกค้าได้เป็นรายบุคคล ทำทุกอย่างให้ง่ายลูกค้าไม่ใช่ง่ายกู ให้ลูกค้าเป็นฝ่ายได้เลือก ไว้ใจลูกค้า เห็นคุณค่าในตัวลูกค้า ทำให้ลูกค้าประหลาดใจ เกินคาดหมาย มิใช่อ้วนเกินจนเข็มขัด คาดไม่ถึง และให้เกิด Omni Channel Customer Experience หมายถึงทำให้ประสบการณ์ลูกค้าที่เป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะติดต่อกับแบรนด์ผ่านช่องทางใด ก็ตาม ไม่ว่าเป็นพบพนักงานหน้าร้าน   พนักงานโทรศัพท์  Call Center   Chat Online    Email    

Entagled Marketing


2) Entangled Marketing  เป็นแนวคิดของ  Stann Rapp สดๆร้อน ว่าจะมาแทน Engagement Marketing ที่คนเขา คลิก like แล้วพอได้ของแจกแล้วก็ Unlike คนAdd friend แล้วพอได้สติกเกอร์ ก็

บล็อค เลย Disengagement ทำได้เร็วมากโดยลูกค้า  หลังจากได้รับ Offer แบรนด์แล้ว  ในทางตรงข้าม Entanglement ยืมคำมาจาก Quantum Mechanic ว่าด้วยอนุภาคเมื่อมาใกล้กันจนถึงจุดหนึ่ง มันจะมีแรงดึงดูดซึ้งกันและกันและมีรักษาระยะห่างหรือความสัมพันธ์หนึ่งต่อหนึ่งตรงนั้นไว้ตลอด ซึ่งนำมาใช้รักษาสัมพันธ์ระหว่าง แบรนด์กับลูกค้า แบบดึงดูดกันตลอด เช่นบริษัทประกันชีวิต ให้นาฬิกาตรวจสุขภาพ พร้อม โหลด Apps ที่สามารถตรวจวัดชีพจร การเผาผลาญ และดูกิจกรรมและการใช้ชีวิตของผู้ถือประกัน หากกิจกรรมดี ไม่เสี่ยงก็นำกลับมาลดเบี้ยประกัน ผู้เอาประกันก็ได้รักษาสุขภาพมีอายุยืนยาวไม่เจ็บป่วยง่าย ได้ลดเบี้ยประกัน ส่วนบริษัทประกันก็ได้ข้อมูล ลดต้นทุนในการประกัน ค่าเคลม Keywords คือ Keep the Relationship alive forever ดังนั้นการสร้างStory ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าของผลิตภัณฑ์อย่างเดียว มันเป็นหน้าที่ร่วม ที่ลูกค้าเป็นผู้สร้างStory ให้กับแบรนด์ไปพร้อมๆกันกับเจ้าของแบรนด์ ดังนั้นจากตัวอย่างนี้เราจะเห็นว่า ความสัมพันธ์ ที่ ต้องสร้าง  Story นั้นแบรนด์สร้าง Content และเรื่องราว   ส่วนลูกค้าก็นำเรื่องราวแบรนด์มาใช้แล้วสร้างเรื่องราวตัวเอง  พอใจ แชร์ต่อ  เป็น Testimonail ให้ความเห็น วิพากษณ์    และนี่เป็นปฐมบทหนังสือเล่มใหม่แต่ยังไม่คลอดสู่ตลาด ของอาจารย์ผม Stann Rapp ผู้ก่อตั้ง บริษัทโฆษณาดังก้องโลก Rapp Agency ที่ผมข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนกับแก ตามแกที่ฮ่องกง ไปสู่ San fran และ Toronto ผมจะเล่าเรื่องนี่ต่อตอนถัดไปครับ   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

hostgator coupon