Digital Marketing 4.0

Digital Marketing  4.0
กลยุทธ์และ ไอเดียใหม่ เพื่อสร้างความภักดีลูกค้าในยุค Marketing5.0

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Marketing 4.0 > โฆษณา อย่างไรได้ผล Facebook

การตลาด 4.0 > Social Media Marketing เฟสบุ้ค 2


ในครั้งนี้ผมขอกล่าวเกี่ยวกับเรื่อง ราวของ Creative  ก่อนน่ะครับ ในครั้งหน้าค่อยคุยกันเรื่อง Target ที่เรามักจะ Set   ใน Adset   ซึ่งครั้งนี้ของคุยเรื่อง Ad แต่ละตัวใน Ad set    ทั้งนี้เราต้องตั้งโจทย์เป้าหมายว่าเราต้องการสร้าง Awareness  Reach คนเห็นเยอะ  หรือ  engagement  มีคนมา Views   Likes  Comments  Share ที่เรียก Promote Post   หรือเราต้องการ lead  ให้คนวิ่งไป กรอกข้อมูล ในเว็บ หรือ วิ่งเข้าในไลน์   หรือ  Messenger    หรือต้องการยอดขายเลย  อันนี้คือวัตถุประสงค์จะเป็นตัวตัดสินชี้วัด ความสำเร็จโฆษณา  

1.ก่อนอื่น ต้องให้โฆษณาเราอได้รับอนุมัติโดย FB เสียก่อน  เรื่องแรกและสำคัญคือ พื้นที่ตัวหนังสื่อต้องไม่เกิน 20%  ของภาพโฆษณาปัจจุบันกฏเหล็ก FaceBook เปลี่ยนไป เมื่อก่อนไม่ให้โฆษณาหากพื้นที่ตัวหนังสือเกิน20% แต่ปัจจุบัน FB ยึดหยุ่น ถ้าตัวหนังสือ มากๆ อดโฆษณา ตัวหนังสือเยอะ (Medium Heavy )โฆษณาโผ่ลน้อยหรือไม่โผล่เลย ตัวหนังสือน้อย (OK Low) โฆษณาโผล่เยอะ แน่นอนหากตัวหนังสือเยอะ นั้นหมายถึงคุณจ่ายค่าโฆษณาสูงกว่าตัวหนังสือน้อย วิธีการดูพื้นที่ตัวหนังสือให้ ทำ Crop ภาพที่คุณจะโหลดโฆษณา คุณจะเห็น 9 ช่อง พื้นที่ตัวหนังสือ Text หรือคำประกาศต้องไม่เกิน 2ช่อง ทางที่ดี คือ ช่องครึ่งพอ สิ่งไม่ถือเป็นตัวหนังสือ คือภาพสินค้าเต็มตัวที่มีตัวหน้งสือบนฉลากหรือกล่อง ตัวหนังสือประดิษฐ์ ภาพโปสเตอร์ Entertainment &Event ส่วนโลโก้ที่เป็นตัวหนังสือถูกนับรวมว่าเป็นText ครับ


นอกจากนี้  ห้ามใช้ โลโก้ หรืออ้างอิงชื่อ Facebook   เช่น facebook.com/marketingguruasean    ในรูปภาพโฆษณาก็ไม่ได้    โฆษณาแสดง Before After  เป็นตัวที่ มักจะโดนไม่อนุมัติ   การแสดงผลลัพธ์ภาพแสดงสัดส่วนเฉพาะเช่นลดพุง   เอวขอด    แสดงอวดอ้างสรรพคุณมากไป  ก็มักจะโดนห้ามโฆษณา


2.ทำโฆษณาเราให้โผล่บ่อยๆ
 ข้อควรระวังคือโฆษณาล่อเหยื่อ หรือ Postsที่หลอกคนให้เข้าไป คลิกลิงค์ เป็นสิ่งที่ Facebook เกลียดและจะแสดงในหน้า Feed ให้คนเห็นน้อย ตัวอย่างดังภาพ เฟสบุ้คเรียกมันว่าClick Bait หรือล่อเหยือให้คลิกไปดูเพิ่มเติม แต่เมื่อลูกค้าคลิกไปแล้ว เนื้อหาปลายทางไม่ได้มีอะไร ทำให้ ลูกค้าใช้เวลาบนหน้า เว็บ แป๊บเดียว และก็กลับมาที่ Facebook Feed เหมือนเดิม เขาวัดเวลาที่ลูกค้าไปหน้าเว็บปลายทาง หรือ หน้าเพจ ว่าใช้เวลานานไหม ถ้าใช้เวลาแป๊บเดียวแล้วก็ย้อนกลับมา หน้า Feed เหมือนเดิม เฟสบุ้คจะหมายหัว ว่าเป็นcick bait และจะโชว์โฆษณาโผล่น้อยในหน้าNews Feed

3.เวลาใส่ link url ไปปลายทาง Destination Creative Facebook โฆษณาแบบไหน จะโชว์ ในหน้า Feed แบบไหนบ่อยกว่า สมมุติว่าเป็นการ โปรโมท Post ในแบบ Link format หรือซ่อนลิงก์ (ภาพแรก ซึ่งภาพจะใหญ่กว่าเมื่อคลิกที่ภาพ ลิงค์จะพาไปยัง ปลายทางเช่น หน้าเว็บ landing page)



มากกว่า แบบ ฝัง link ใน photo caption (ภาพสอง จะเห็น ลิงค์ในตัวหนังสือ เหนือภาพ ทำเป็นลิงค์ย่อ bit.ly) FB พบว่าลูกค้าจะคลิกแบบ link format (ภาพใหญ่ ) มากกว่าและแบบแรก ภาพใหญ่กว่ามันก็โชว์ได้ดีกว่าในหน้าจอเล็กๆแบบมือถือ



4. รูปแบบโฆษณา นั้น ปัจจุบัน  FB มีรูปแบบโฆษณาให้เลือกหลากหลาย  Single Photo   แบบภาพเดียวที่เราคุ้นเคย  ดังตัวอย่างข้างบน    แบบ Carouselที่เหมือนบานสไลด์  หรือมีหลายภาพและใส่ลิงก์ไปปลายทางได้หลายลิงก์ในแต่ละภาพ    แบบ Slide Show  ทีนำภาพมาต่อกันวิดีโอ       หรือ  วิดีโอ ที่เราต้องโหลดวิดีโอเข้าใน ในแถบวิดีโอของ FB Page ก่อน       และ โฆษณาแบบ  Canvas  หรือแบบเต็มหน้าจอมือถือ    และ  Messenger  Destination  ที่จะทำให้คนคลิกวิ่งไปที่ FB  Messenger หรือ  Inbox  พร้อมมี Robot  text ประกาศคำต้อนรับ เมื่อลูกค้าคลิกโฆษณาแล้ววิ่งไป Messenger  ข้างล่างเป็นตัวอย่าง Canvas  Ad
  

ทั้งนี้เราต้องทำการทดสอบว่า รูปแบบโฆษณาแบบไหนเวิรค์สำหรับ Themeแต่ละธีม ซึ่งจะไม่เหมือนกัน บ้างครั้งโชว์ภาพเดียวเวิรค์กว่า บางครั้ง Carousel เวิรค์กว่า บางครั้ง วิดีโอเวิรค์กว่าอันนี้ขึ้นกับวัตถุประสงค์ แต่ วิดีโอ ใน FB มักจะได้คลิกมากกว่า youtube ที่เราใส่ CTA วิ่งไปหน้าปลายทางเช่น Landing Page เพราะ วิดีโอมันโชว์ Landing Page ด้านล่างวิดีโอเลย คนเลยคลิกไปปลายทางได้ง่ายๆ กว่าของ Youtube ที่เป็นแบนเนอร์แบบแอบๆ คนมักไม่ค่อยเห็นลิงก์ไปปลายทางเท่าไร อย่างไรผมขอติดเรื่อง การทำ Messenger Destination เป็นครั้งหน้าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

hostgator coupon